ตารางการแข่งขันวัวชน สนามกีฬาชนโคบ้านเสาธงสเตเดี้ยม เริ่มชนเวลา 10:00 น. พร้อมคาดการณ์ วิเคระห์เชิงลึก

โปรแกรมการแข่งขันวัวชน สนามกีฬาชนโคบ้านเสาธงสเตเดี้ยม

วันที่ 11 ตุลาคม 2568 | เริ่มชนเวลา 10:00 น.

วัวชนถ่ายทอดสด คุณภาพHD ให้ชมฟรี ที่นี่

คู่ที่ วัวชนฝ่าย 🔴 แดง วัวชนฝ่าย 🔵 น้ำเงิน รางวัล (บาท) เสมอนอก
1 โคโหนดเทพเทวารักษ์ (ไอ้น้อง) โคลายอิทธิพลเล็กยอดนำชัย (ลูกลาย) 20,000 100,000
2 โคลังสาดเพชรพยัคฆ์ปิยะ (กุมภา) โคโหนดฟ้าวันใหม่เพชรณรงค์ชัย 20,000 300,000
3 โคโหนดเพชรภาคิน (ไอ้เปรต) โคขาวคมพยัคฆ์ยอดอัศวิน (เหลือเกิน) 20,000 200,000
4 โคขาวงามโชคมีชัย (ขวัญใจน้องขุ่น) โคแดงงามลูกแซมเจ้าพระยา (แดงดื้อ) 800,000 20,000
5 โคโหนดเพชรบ้อนนอก โคโหนดพูนทรัพย์ (เอสเทค) 800,000 20,000
6 โคโหนดสิงห์ไตทองสองจังหวัดยอดมีชัย (บ่าวทรัพย์) โคลังสาดดีเซลล์เล็ก (ทาโร่)
7 โคดุกด้างสมพงศ์พลังชัยมารีน28 (ไอ้สองเมือง) โคลังสาดเพชรมงคลชัยขวัญใจแม่กิ๊ฟ
8 โคแดงงามยอดพิชิตชัยขวัญใจเกาะยาว (เอเชีย) โคแดงงามใจเด็ดเพชรทองคำ
9 โคขาวนำทรัพย์สมบัติพ่อ โคนิลพนมทวนเล็ก
10 โคโหนดทวนทองคะนองศึก (ไอ้พวน) โคโหนดงามเพชรสามสี (ไอ้โจร)

ไม่อยากพลาดถ่ายทอดสดวัวชน แอดมาเลย @USPORT24

ตารางการแข่งขันวัวชน สนามกีฬาชนโคบ้านเสาธงสเตเดี้ยม วันที่ 11 ตุลาคม 2568

คู่ที่ 1: โคโหนดเทพเทวารักษ์ (ไอ้น้อง) VS โคลายอิทธิพลเล็กยอดนำชัย (ลูกลาย)

โคโหนดเทพเทวารักษ์ ให้ความรู้สึกของวัวที่ถูกเลี้ยงเพื่อพละกำลัง และการยืนปะทะ ส่วนโคลายอิทธิพลเล็กชื่อนี้มักสื่อถึงโคที่รวดเร็วและมีชั้นเชิงลูกลาย ในยกแรกจุดที่ควรจับตาคือการยืนเท้าและการก้าวขา หากไอ้น้องยืนพื้นแน่นและไม่ถอย ลูกลายจะต้องใช้ความคล่องพลิกมุมเพื่อทำคะแนน หากสนามแน่นโอกาสชนะจะไหลไปทางโหนดเทพ แต่หากพื้นหลวมและมีฝุ่น ลูกลายที่คล่องอาจมีช่องพลิกเกมได้

คู่ที่ 2: โคลังสาดเพชรพยัคฆ์ปิยะ (กุมภา) VS โคโหนดฟ้าวันใหม่เพชรณรงค์ชัย

คู่นี้เป็นการพบกันของโค ที่มักมีสไตล์ต่างกัน ลังสาดเพชรพยัคฆ์มักออกแรงเป็นช่วงสั้นแต่แรง ขณะที่โหนดฟ้าวันใหม่ชื่อบ่งชี้ถึงความสดและการฟื้นตัวดี การวางจังหวะการเข้า ออกเป็นกุญแจสำคัญ หากกุมภาสามารถเปิดเกมรวดเร็วและทำให้โหนดฟ้าวันใหม่เสียจังหวะ จะได้เปรียบ แต่หากโหนดฟ้าวันใหม่คุมระยะและตอบโต้ได้แม่นยำ โอกาสชนะจะมาที่ฝ่ายโหนดเพชรณรงค์ชัย

คู่ที่ 3: โคโหนดเพชรภาคิน (ไอ้เปรต) VS โคขาวคมพยัคฆ์ยอดอัศวิน (เหลือเกิน)

โคโหนดเพชรภาคิน มักให้ภาพของโค ที่มีความเป็นนักสู้ มีแรงปะทะต่อเนื่อง ในขณะที่โคขาวคมพยัคฆ์ดูจะเน้นความคล่องตัวและการจู่โจมแบบคม ๆ คู่นี้จะเป็นการชนของพละกำลังกับความแม่นยำ การจับจังหวะของไอ้เปรตในยกเริ่มจะเป็นตัวชี้ขาด หากเพชรภาคินเปิดเกมได้เร็ว จะกดดันขาวคมให้ถอย แต่หากขาวคมสามารถใช้มุมสั้นสกัดและตอบโต้ โอกาสพลิกกลับจะเปิดกว้าง

คู่ที่ 4: โคขาวงามโชคมีชัย (ขวัญใจน้องขุ่น) VS โคแดงงามลูกแซมเจ้าพระยา (แดงดื้อ)

การปะทะระหว่างโคสีขาว และแดงมักมีเอกลักษณ์เรื่องสไตล์ ขาวงามโชคมีชัยชื่อบ่งชี้ความสวยงามและการจัดการที่ดี ขณะที่แดงงามลูกแซมมักมีนิสัยดื้อแต่มีพละกำลัง การสังเกตท่าทางก่อนชน เช่น การก้าวขาและการตั้งคอ จะบอกได้ว่าใครตั้งใจเปิดเกมหรือรอจังหวะ หากขาวงามมีชั้นเชิงหลบหลีกและหาช่องเข้าได้ จะได้เปรียบ แต่ถ้าแดงดื้อสามารถบังคับระยะและกดดันต่อเนื่อง จะยืนระยะจนได้คะแนนนำ

คู่ที่ 5: โคโหนดเพชรบ้อนนอก VS โคโหนดพูนทรัพย์ (เอสเทค)

สองโหนดเจอกันเป็นการทดสอบชั้นเชิงแบบตรงไปตรงมา เพชรบ้อนนอกอาจมีความเฉียบและเน้นการเข้าตัด ส่วนพูนทรัพย์จากฉายาเอสเทคอาจสะท้อนการดูแลที่มุ่งสมรรถภาพโดยรวม การชนโหนดต่อโหนดนี้จะชี้ว่าฝ่ายใดมีการตอบสนองต่อแรงปะทะได้ดีกว่า การดูการเคลื่อนไหวขณะถูกกดดันและการฟื้นตัวหลังการชนสั้น ๆ จะให้ภาพชัดเจนว่าใครมีโอกาสชนะมากกว่า

คู่ที่ 6: โคโหนดสิงห์ไตทองสองจังหวัดยอดมีชัย (บ่าวทรัพย์) VS โคลังสาดดีเซลล์เล็ก (ทาโร่)

คู่ที่หกมีความเป็นไปได้สูงที่จะเป็นการชนของโคใหญ่และโคที่เน้นแรงปะทะ โหนดสิงห์ไตทองมักมีพละกำลังสูง ขณะที่ลังสาดดีเซลล์เล็กอาจเน้นแรงสั้น ๆ แต่หนัก หากบ่าวทรัพย์สามารถบีบพื้นที่และใช้แรงต่อเนื่อง จะทำให้ทาโร่เสียจังหวะ แต่ถ้าทาโร่ใช้การเลี้ยงจังหวะและหลบเข้าทำเร็วได้ จะมีช่องทำคะแนน ทั้งนี้การเสียเลือดหรือแผลเล็กๆ ระหว่างยกสามารถเปลี่ยนเกม ได้ทันที

คู่ที่ 7: โคดุกด้างสมพงศ์พลังชัยมารีน28 (ไอ้สองเมือง) VS โคลังสาดเพชรมงคลชัยขวัญใจแม่กิ๊ฟ

คู่นี้ชื่อนำเสนอความเหนียวแน่นและพลังสมพงศ์ ดุกด้างมักมีนิสัยทนและยืนสู้ ส่วนลังสาดเพชรมงคลชัยอาจมีชั้นเชิงที่ผสมแรงและความคล่องตัว การชนในยกกลางจะเป็นตัวตัดสิน หากไอ้สองเมืองสามารถสกัดการโต้ของเพชรมงคลชัยได้บ่อย ๆ จะทำให้ฝ่ายลังสาดเหนื่อยและเสียคะแนน แต่หากเพชรมงคลชัยมีจังหวะเข้าตัดแม่นยำ จะสามารถฉีกเกมและทำคะแนนได้ต่อเนื่อง

คู่ที่ 8: โคแดงงามยอดพิชิตชัยขวัญใจเกาะยาว (เอเชีย) VS โคแดงงามใจเด็ดเพชรทองคำ

การพบกันของโคแดงสองตัวมักทำให้เกมเข้มข้นและรวดเร็วทั้งคู่ ชื่อทั้งสองฝ่ายสื่อถึงความงามและความดุเดือด ความสำคัญอยู่ที่การเลือกจังหวะแลก หากเอเชียสามารถคุมพื้นที่ และเปิดเกมได้เร็วกว่าจะกดดันฝ่ายใจเด็ด แต่ถ้าใจเด็ดมีวินัยในการหลบและตอบโต้ จะมีโอกาสชนะจากการเก็บคะแนนเชิงเทคนิค การดูภาษากายขณะสตาร์ทเป็นกุญแจชี้ทิศทางผลการแข่งขัน

คู่ที่ 9: โคขาวนำทรัพย์สมบัติพ่อ VS โคนิลพนมทวนเล็ก

คู่นี้มีความขัดแย้งระหว่างความหนักแน่นและความเฉียบคม ขาวนำทรัพย์มักถูกคาดหวังเรื่องการยืนพื้นและการทำคะแนนระยะกลาง ขณะที่นิลพนมทวนเล็กอาจมีความเร็ว และมุมการโจมตีที่หลากหลาย หากขาวนำทรัพย์สามารถควบคุมระยะและใช้แรงสั้น ๆ ไล่บีบ โอกาสชนะจะสูง แต่ถ้านิลพนมฉวยโอกาสใช้มุมสั้นเข้าทำได้บ่อย ๆ จะพลิกสถานการณ์ได้เช่นกัน

คู่ที่ 10: โคโหนดทวนทองคะนองศึก (ไอ้พวน) VS โคโหนดงามเพชรสามสี (ไอ้โจร)

คู่ปิดรายการมักมีอารมณ์และความเข้มข้นสูง โหนดทวนทองมีภาพลักษณ์ของนักสู้ที่ดุดัน ขณะที่โหนดงามเพชรสามสีอาจมีชั้นเชิงหลากหลายและความยืดหยุ่น การปิดเกมจะขึ้นกับการจัดการแรงของทั้งสองฝ่าย หากไอ้พวนเน้นปะทะหนักและไม่เปิดช่องให้ไอ้โจรหลบ จะได้เปรียบ แต่ถ้าไอ้โจรสามารถใช้ชั้นเชิงพลิกมุม และเก็บแต้มเชิงเทคนิคได้ต่อเนื่อง อาจเป็นฝ่ายชนะในยกสุดท้าย

ภาพรวมโปรแกรมและเวลาการแข่งขัน

โปรแกรมของวันประกอบด้วยทั้งหมดสิบคู่ เริ่มชนเวลา 10:00 น. เป็นช่วงกลางเช้าที่ยังมีอากาศไม่ร้อนจัด ซึ่งมีผลต่อความทนทานและการจัดการพลังงานของโคทุกตัว การเริ่มชนในเวลาเช้าทำให้วัวที่ฟื้นตัวดีจากการขนส่งและการพักผ่อนในคืนนี้มีโอกาส แสดงสมรรถภาพสูงกว่า ผู้เลี้ยงที่รู้จักปรับอาหารและการพักตัวโคให้เหมาะสมมักเห็นผลชัดเจนตั้งแต่ยกแรก การอ่านโปรแกรมอย่างละเอียด ช่วยให้ผู้ชมจับจังหวะการเปิดเกมและการจัดพลังของแต่ละคู่ได้ตั้งแต่ต้นการแข่งขัน

สภาพสนามและปัจจัยแวดล้อมที่มีผลต่อการชน

สภาพพื้นสนาม ลักษณะฝุ่น ความชื้น และ ความแน่นของพื้นจะเป็นปัจจัยกำหนดรูปแบบการชนอย่างมาก สนามที่แน่นและไม่ลื่นเอื้อต่อการใช้พละกำลังขนาดใหญ่ ส่วนสนามที่มีฝุ่นหรือพื้นหลวมจะเอื้อต่อวัวที่มีความคล่องตัวและชั้นเชิงพลิกตัวได้ดี นอกจากนี้เสียงและการรบกวนจากผู้ชมอาจส่งผลต่อการตั้งสติของโค โดยเฉพาะคู่ที่มีโคยังไม่คุ้นสนาม การสังเกตผู้เลี้ยงก่อนเริ่มยกสามารถให้เบาะแสเรื่องการเตรียมตัวของโค เช่น การม้วนเชือก การปรับตำแหน่งคอ และการเคลื่อนไหวรอบ ๆ ก่อนขึ้นสนาม ซึ่งทั้งหมดนี้ล้วนมีผลต่อการออกอาวุธและการยืดหยุ่นของโคในยกจริง

เกณฑ์การวิเคราะห์และแนวทางประเมินผล

การวิเคราะห์แต่ละคู่ยึดหลักสี่ด้านสำคัญคือ รูปร่างและสัดส่วนของโค (เช่น ความยาวลำตัว ขนาดไหล่และขา), พฤติกรรมการออกแรง (นิสัยรุกหรือรับ), ประวัติการชนและการฟื้นตัว (หากมีข้อมูล), และ สไตล์การจัดการของผู้เลี้ยงในสนาม การผสมผสานข้อมูลเชิงสังเกตจากการเดินโคก่อนขึ้น การจับคอ และ การตั้งเท้าช่วงเริ่มยก จะช่วยให้ประเมินได้ว่าโคตัวใดมีแนวโน้ม จะเปิดเกมเร็ว หรือโคตัวใดจะเลือกถอยรอจังหวะ นอกจากนี้ยังให้ความสำคัญกับคู่ที่มีความไม่สมดุลด้านพละกำลัง กับความคล่องตัว เพราะมักเป็นคู่ที่มีโอกาสพลิกเกมสูง