โปรแกรมมวย ประจำวันที่ 2 ตุลาคม 2568 | ศึกเพชรยินดี

โปรแกรมมวย ประจำวันที่ 2 ตุลาคม 2568 | ศึกเพชรยินดี แฟนมวยจะได้พบกับอีกหนึ่งค่ำคืนแห่งความมันส์ ที่เวทีมวยราชดำเนิน อันเป็นสนามมวยประวัติศาสตร์ของไทย โดยการแข่งขันเริ่มตั้งแต่เวลา 18.00 น. เป็นต้นไป บรรยากาศเต็มไปด้วยความคึกคัก ทั้งนักมวยระดับแถวหน้า ดาวรุ่งฝีมือเฉียบ และคู่เอกที่แฟนมวยเฝ้ารอคอย ศึกนี้จึงไม่เพียงเป็นการต่อสู้ แต่ยังสะท้อนถึงความงดงามของศิลปะแม่ไม้มวยไทยในทุกรูปแบบ

โปรแกรมมวย ประจำวันที่ 2 ตุลาคม 2568 | ศึกเพชรยินดี

ไฮไลต์และความพิเศษของศึกเพชรยินดีวันนี้

ความพิเศษของศึกเพชรยินดีในวันนี้อยู่ที่การรวมเอานักชกทั้งรุ่นเล็กและรุ่นใหญ่ไว้ครบถ้วน โดยเฉพาะคู่เปิดสนามที่จะเป็นการชิงไหวพริบและความเร็ว ก่อนจะค่อย ๆ ยกระดับไปสู่คู่รองและคู่เอกที่เดิมพันด้วยศักดิ์ศรีและความเป็นหนึ่งในรุ่นน้ำหนักนั้น ๆ อีกทั้งยังมีดาวรุ่งจากหลายค่ายดัง เช่น เกียรติฉัตรชัย, ดาบรันสารคาม, ศิษย์แก้วประพล และมวยดังอย่างเพชรไทยแลนด์ ที่จะขึ้นสังเวียนในไฟต์ปิดท้าย แฟนมวยทั้งในสนามและผู้ชมผ่านการถ่ายทอดสด จะได้สัมผัสบรรยากาศดุเดือดทุกยก

โปรแกรมและการวิเคราะห์คู่มวย

ค่ำคืนนี้มีการแข่งขันทั้งหมด 9 คู่ เรามาดูรายละเอียดและการวิเคราะห์แบบเจาะลึกกันทีละคู่

คู่เปิดสนาม 108 ปอนด์ – ความเร็วปะทะความแม่นยำ

ตวงพลอย เกียรติฉัตรชัย vs เขตตะวัน มกช.สุพรรณบุรี

การวิเคราะห์เชิงเทคนิค

ตวงพลอยขึ้นชื่อเรื่องความแม่นยำและการตั้งการ์ดที่เหนียวแน่น หากควบคุมระยะได้ก็จะทำคะแนนสะสมได้ดี แต่เขตตะวันมีเกมบุกดุดันและความแข็งแรงที่จะกดดันอย่างต่อเนื่อง คาดว่าเกมจะออกมาในลักษณะ ตวงพลอยเน้นออกหมัดสวนและรอเก็บแต้ม ส่วนเขตตะวันจะพยายามเร่งเกมบุกเพื่อพลิกสถานการณ์

คู่ที่ 2 – รุ่น 128 ปอนด์ เกมเชิงบุกดุดัน

ชรัณ ดาบรันสารคาม vs เทียนหลวง เกียรติทอฝัน

การวิเคราะห์เชิงเทคนิค

ชรัณมีสไตล์บู๊หนัก เดินเข้าหาแบบไม่กลัวใคร ในขณะที่เทียนหลวงเป็นมวยเชิงคม รู้จักใช้จังหวะสั้นและหมัดตรงที่อันตราย การต่อสู้ครั้งนี้น่าจะเป็นการวัดกันว่า พลังบุกของชรัณหรือความเฉียบคมของเทียนหลวงจะเหนือกว่า

คู่ที่ 3 – รุ่น 132 ปอนด์ นักบู๊สายแข็ง

ปราบศึก ศิษย์แก้วประพล vs ช้างมงคล ร.ร.สุรินทร์ราชมงคล

การวิเคราะห์เชิงเทคนิค

ปราบศึกเป็นมวยบู๊ที่มีพลังหมัดและเข่าแข็งแรง ส่วนช้างมงคลเป็นนักชกที่เน้นความเร็วและความหลากหลายของอาวุธ เกมนี้จึงน่าจะเป็นการปะทะกันระหว่างพลังปะทะกับความเร็ว หากช้างมงคลเร่งเกมได้เร็ว อาจทำให้ปราบศึกเสียเปรียบ แต่ถ้าปราบศึกจับจังหวะได้ คู่ต่อสู้อาจถูกหมัดหนักเล่นงาน

คู่ที่ 4 – รุ่น 123 ปอนด์ ความเร็วกับความเหนียว

เพชรสองเล ราไวย์มวยไทย vs แคนชัย พันธุ์ดักษ์รัตนบุรี

การวิเคราะห์เชิงเทคนิค

เพชรสองเลมีความเร็วและการออกหมัดชุดที่แม่นยำ สามารถควบคุมจังหวะเกมได้ดี ส่วนแคนชัยมีความทนทานและสภาพร่างกายแข็งแรง เกมนี้น่าจะสูสีและแฟนมวยจะได้เห็นความดุเดือดตั้งแต่ต้นยก

คู่ที่ 5 – รุ่น 112 ปอนด์ ความคล่องตัวปะทะหมัดหนัก

พลอยมงคล จ.เมืองศรี vs เพชรศิริ เกียรตินิเวศน์

การวิเคราะห์เชิงเทคนิค

พลอยมงคลใช้การเคลื่อนที่และความคล่องตัวเป็นอาวุธสำคัญ แต่เพชรศิริมีหมัดที่หนักและสามารถปิดเกมได้ในทันทีหากมีจังหวะ คู่นี้ถือว่ามีความเสี่ยงสูงสำหรับทั้งสองฝ่าย

คู่ที่ 6 – รุ่น 110 ปอนด์ ดุเดือดทุกวินาที

ปากีสถาน เอราวัณ vs เพชรสีแดง ศิษย์เจริญทรัพย์

การวิเคราะห์เชิงเทคนิค

ปากีสถานเน้นการเดินบุกเร็ว แต่เพชรสีแดงเป็นมวยที่ออกอาวุธต่อเนื่องได้ดี หากสามารถกดดันตั้งแต่ต้น เกมนี้อาจกลายเป็นหนึ่งในคู่ที่สนุกที่สุดของค่ำคืน

คู่ที่ 7 – รุ่น 110 ปอนด์ มวยฟอร์มสด

สั่งฟ้า น.อนุวัฒน์ยิม vs ซุปเปอร์ไบร์ท ป.พิฆเนศ

การวิเคราะห์เชิงเทคนิค

สั่งฟ้ามีความสดและความเร็วที่เหนือกว่า แต่ซุปเปอร์ไบร์ทมีพลังหมัดและความแข็งแรง หากออกหมัดเข้าเป้าได้อาจตัดสินเกมในทันที

คู่ที่ 8 – รุ่น 109–110 ปอนด์ ความเร็วแลกหมัด

แหลมโพธิ์ ศิษย์คุณวสันต์ vs เพชรทวีชัย ไฟต์เตอร์มวยไทย

การวิเคราะห์เชิงเทคนิค

แหลมโพธิ์มีความเร็วสูง สามารถชิงจังหวะได้ดี ขณะที่เพชรทวีชัยเน้นการเดินหน้าและหมัดตรงแรง คู่นี้ถือว่าสูสีและมีโอกาสออกมาเป็นไฟต์เดือดแลกกันตลอดทั้งยก

คู่ปิดท้าย 121 ปอนด์ – คู่เอกประจำค่ำคืน

เพชรไทยแลนด์ อ.กิจเกษม vs เสาโท อ.อัจฉริยะ

การวิเคราะห์เชิงเทคนิค

นี่คือคู่ที่แฟนมวยรอคอยมากที่สุด เพชรไทยแลนด์ขึ้นชื่อเรื่องเชิงมวยที่เฉียบคม ส่วนเสาโทมีพละกำลังและความอึดสูง เกมนี้จะเป็นบทพิสูจน์ว่า เชิงมวยหรือตัวตนแข็งแกร่งจะเป็นผู้ชนะ

บทสรุปค่ำคืนศึกเพชรยินดี

ศึกเพชรยินดี มวยวันนี้ 2 ตุลาคม 2568 ณ เวทีมวยราชดำเนิน เป็นอีกหนึ่งค่ำคืนที่แฟนมวยไทยไม่ควรพลาด ด้วยโปรแกรม 9 คู่ที่คัดสรรมาอย่างเข้มข้น ตั้งแต่รุ่นเล็กไปจนถึงรุ่นใหญ่ โดยเฉพาะคู่เอก เพชรไทยแลนด์ ปะทะ เสาโท ที่จะเป็นการปิดท้ายด้วยความมันส์อย่างแท้จริง ทั้งนี้ไม่ว่าจะเป็นแฟนมวยที่เข้าชมในสนามหรือชมผ่านการถ่ายทอดสด ทุกคนจะได้รับประสบการณ์ที่เต็มไปด้วยพลังและความประทับใจจากศิลปะแม่ไม้มวยไทย