โปรแกรมมวย ประจำวันที่ 5 ตุลาคม 2568 | ศึกมวยดีวิถีไทย บรรดาคอมวยไทยห้ามพลาด! “ศึกมวยดีวิถีไทย” กลับมาอีกครั้งในวันอาทิตย์ที่ 5 ตุลาคม 2568 ณ เวทีมวยกองทัพอากาศ (ธูปะเตมีย์) เริ่มชกตั้งแต่เวลา 12.15 น. เป็นต้นไป การแข่งขันในวันนี้เต็มไปด้วยนักชกมากฝีมือจากหลายค่ายดัง ไม่ว่าจะเป็น เพชรบ้านบึง, จิตรเมืองนนท์, พยัคฆ์ลำพอง, สิงห์ศาลายา และอีกมากมายที่พร้อมขึ้นสังเวียนสร้างความมันส์ให้แฟนมวยทั่วประเทศ

โปรแกรมมวย ประจำวันที่ 5 ตุลาคม 2568 | ศึกมวยดีวิถีไทย

โปรแกรมมวย ประจำวันที่ 5 ตุลาคม 2568 | ศึกมวยดีวิถีไทย

คู่ที่ นักมุมแดง นักมุมน้ำเงิน พิกัด (ปอนด์) น้ำหนักชั่งได้แดง น้ำหนักชั่งได้น้ำเงิน
1 งาทอง เพชรบ้านบึง คมเกียรติ ส.วิชิตชัย 100 100 100
2 เพชรพยัคฆ์ พุฒิประชาชื่น เพชรดำ สิงห์ศาลายา 114 112 (–2.0) 113 (–1.0)
3 แบงค์ไทย ศิษย์สั่งปราบ เพชรสีคิ้ว ก.กัมปนาท 139 138.3 (–0.7) 139
4 พงษ์ศิริ สจ.วิชิตแปดริ้ว กานต์ชัย จิตรเมืองนนท์ 100 100 100
5 พยัคฆ์ พยัคฆ์ลำพอง ฟ้าเพชร เพชรบ้านบึง 100 100 100
6 เพชรพยัคฆ์ขาว สจ.วิชิตแปดริ้ว เพชรบ้านไร่ ส.เฮงเจริญ 100 100 100

ศึกนี้ถือเป็นหนึ่งในรายการมวยที่ได้รับความนิยมสูงสุดประจำวันอาทิตย์ โดยเฉพาะจากผู้ชมทางโทรทัศน์และช่องทางออนไลน์ ซึ่ง “มวยดีวิถีไทย” เป็นรายการที่เน้นนำเสนอคู่มวยที่มีความสมศักดิ์ศรี ทั้งมวยดาวรุ่งและมวยเก๋าฝีมือเข้มครบทุกสไตล์ ไม่ว่าจะเป็นเกมบู๊ดุดันหรือเกมเชิงลึกอย่างมวยวงใน-วงนอก ทำให้ทุกคู่เป็นคู่ดูสนุกสมชื่อรายการ


🥇 คู่เปิดสนาม: งาทอง เพชรบ้านบึง vs คมเกียรติ ส.วิชิตชัย

การเปิดสนามของวันนี้เป็นการพบกันระหว่าง งาทอง เพชรบ้านบึง นักชกร่างเล็กแต่แข็งแกร่ง ปะทะกับ คมเกียรติ ส.วิชิตชัย ที่ขึ้นชื่อเรื่องเชิงมวยจัดและความแม่นในการออกอาวุธ ทั้งคู่มีพิกัด 100 ปอนด์เท่ากัน และต่างก็ชั่งได้ตามพิกัดเป๊ะ ถือว่าอยู่ในสภาพร่างกายสมบูรณ์พร้อมเต็มร้อย

งาทอง เป็นมวยสายบู๊ที่เดินหน้าไม่หยุด ใช้หมัดและแข้งขวาเป็นอาวุธหลัก ส่วน คมเกียรติ จะเน้นการคุมจังหวะ ป้องกันตัวเหนียวแน่นและสวนกลับได้เฉียบขาด ทำให้คู่นี้มีแนวโน้มจะเป็นการแลกอาวุธกันตลอดยก เกมอาจพลิกได้ในช่วงยกท้าย ๆ หากฝ่ายใดเสียสมาธิ

นักชก พิกัด ผลชั่งน้ำหนัก สไตล์การชก จุดเด่น
งาทอง เพชรบ้านบึง 100 ปอนด์ ตามพิกัด เดินเร็ว บู๊หนัก หมัดแรง แข้งขวาหนัก
คมเกียรติ ส.วิชิตชัย 100 ปอนด์ ตามพิกัด มวยเชิงจัด รับดีสวนคม เตะขวาแม่น ยืดหยุ่นสูง

วิเคราะห์แนวโน้มผลชก:
คู่นี้คาดว่าจะสูสีในสามยกแรก ก่อนที่ “คมเกียรติ” จะเริ่มจับทางและสวนได้แม่นกว่า มีโอกาสชนะคะแนนแบบเฉียดฉิว แต่หาก “งาทอง” รักษาความกดดันไว้ได้ตลอดยกสุดท้าย ก็มีสิทธิ์พลิกเกมชนะได้เช่นกัน


🥈 คู่ที่ 2: เพชรพยัคฆ์ พุฒิประชาชื่น vs เพชรดำ สิงห์ศาลายา

คู่มวยรุ่น 114 ปอนด์นี้เป็นอีกคู่ที่แฟนมวยตั้งตารอ เพราะทั้งสองต่างเป็นมวยเดินหน้าเชิงบู๊ที่พร้อมเปิดเกมตั้งแต่ระฆังดัง เพชรพยัคฆ์ พุฒิประชาชื่น ลดน้ำหนักถึง 2 ปอนด์ แสดงให้เห็นถึงความตั้งใจและการเตรียมตัวอย่างเข้ม ส่วน เพชรดำ สิงห์ศาลายา ก็ลดลง 1 ปอนด์เต็ม ๆ ทำให้ทั้งคู่ดูสดและพร้อมขึ้นเวที

เพชรพยัคฆ์ โดดเด่นด้วยการบุกที่ดุดัน มีหมัดหนักและออกอาวุธต่อเนื่อง ขณะที่ เพชรดำ มีแข้งซ้ายเป็นอาวุธเด็ดและจังหวะออกเตะที่แม่นยำ คู่นี้มีแนวโน้มจะเป็นเกมบู๊ดวลกำลังแบบไม่ยอมถอย ใครออกก่อนและแม่นกว่า ย่อมได้เปรียบ

นักชก พิกัด ผลชั่งน้ำหนัก จุดเด่น แนวโน้มผล
เพชรพยัคฆ์ พุฒิประชาชื่น 114 ปอนด์ ลด 2.0 ปอนด์ หมัดแรง บุกเร็ว มีโอกาสชนะคะแนน
เพชรดำ สิงห์ศาลายา 114 ปอนด์ ลด 1.0 ปอนด์ แข้งขวาหนัก สวนแม่น หากยืนระยะได้อาจพลิกชนะ

วิเคราะห์: เกมนี้อาจยืดเยื้อถึงครบยก เพราะต่างฝ่ายต่างเหนียวแน่น เพชรพยัคฆ์ได้เปรียบในช่วงต้น ส่วนเพชรดำอาจรอช่วงปลายยกเพื่อสวนด้วยแข้งและศอก


🥉 คู่ที่ 3: แบงค์ไทย ศิษย์สั่งปราบ vs เพชรสีคิ้ว ก.กัมปนาท

ศึกมวยรุ่น 139 ปอนด์ ถือเป็นการเจอกันของมวยใหญ่พลังบู๊กับมวยเชิงเทคนิค “แบงค์ไทย ศิษย์สั่งปราบ” ลดน้ำหนัก 0.7 ปอนด์ เพื่อความคล่องตัว ส่วน “เพชรสีคิ้ว ก.กัมปนาท” ชั่งได้ตามพิกัด แสดงถึงการรักษาร่างกายที่ยอดเยี่ยม

“แบงค์ไทย” มีพละกำลังมหาศาล เดินหน้าไม่ถอย ใช้หมัดและศอกต่อเนื่อง ขณะที่ “เพชรสีคิ้ว” อาศัยการรับที่เหนียวแน่น รอจังหวะสวนด้วยแข้งและศอกคม เกมนี้อาจเป็นการต่อสู้ของพลังปะทะสมอง ซึ่งต้องดูว่าใครจะยืนระยะได้ดีกว่า

นักชก พิกัด ผลชั่งน้ำหนัก สไตล์ จุดเด่น
แบงค์ไทย ศิษย์สั่งปราบ 139 ปอนด์ ลด 0.7 ปอนด์ มวยบู๊ครบเครื่อง หมัด-ศอกหนัก แรงปลายดี
เพชรสีคิ้ว ก.กัมปนาท 139 ปอนด์ ตามพิกัด มวยเชิง ตั้งรับดี สวนกลับไว มีลูกเตะคม

แนวโน้มผลชนะ:
แบงค์ไทยมีโอกาสชนะคะแนนเล็กน้อย หากสามารถคุมเกมได้ตั้งแต่ต้น แต่ถ้าหากเพชรสีคิ้วรอจังหวะได้ดี ก็มีสิทธิ์ทำคะแนนจากการสวนอย่างจะแจ้ง


⚔️ คู่ที่ 4: พงษ์ศิริ สจ.วิชิตแปดริ้ว vs กานต์ชัย จิตรเมืองนนท์

นี่คือศึกของสองนักชกเชิงดีที่ต่างเคยผ่านเวทีใหญ่ระดับประเทศมาแล้ว ทั้งคู่ชั่งได้ตามพิกัด 100 ปอนด์เป๊ะ ถือว่าเตรียมตัวดีเยี่ยม “พงษ์ศิริ” มีลูกเตะหนักและจังหวะเข้าทำเฉียบ ขณะที่ “กานต์ชัย” เป็นมวยเชิงรับที่รู้จักใช้ระยะและจังหวะคุมเกม

นักชก พิกัด ผลชั่งน้ำหนัก จุดเด่น
พงษ์ศิริ สจ.วิชิตแปดริ้ว 100 ปอนด์ ตามพิกัด เตะซ้ายหนัก เดินไม่หยุด
กานต์ชัย จิตรเมืองนนท์ 100 ปอนด์ ตามพิกัด เชิงมวยจัด ตั้งรับดี สวนคม

วิเคราะห์เกม:
ต้นเกมอาจเป็นของพงษ์ศิริที่เดินบุกเข้าใส่ แต่ยกท้าย ๆ หากความแม่นของกานต์ชัยยังคงเสถียร มีสิทธิ์ชิงแต้มในช่วงปลายได้


🔥 คู่ที่ 5: พยัคฆ์ พยัคฆ์ลำพอง vs ฟ้าเพชร เพชรบ้านบึง

คู่นี้ถือว่าเป็น “คู่มวยจังหวะเร็ว” ที่คอมวยจับตา เพราะทั้งคู่มีสไตล์บู๊ดุดันและออกอาวุธต่อเนื่อง โดยเฉพาะ “พยัคฆ์ลำพอง” ที่ขึ้นชื่อเรื่องหมัดซ้ายทรงพลัง ส่วน “ฟ้าเพชร” ก็เป็นมวยอึดทนที่มีแข้งซ้ายอันตราย

นักชก พิกัด ผลชั่งน้ำหนัก จุดเด่น
พยัคฆ์ พยัคฆ์ลำพอง 100 ปอนด์ ตามพิกัด หมัดหนัก เตะขวาแรง
ฟ้าเพชร เพชรบ้านบึง 100 ปอนด์ ตามพิกัด แข้งซ้ายเร็ว ป้องกันตัวดี

แนวโน้ม:
การแลกหมัดแลกแข้งตลอดยกแน่นอน เกมนี้อาจตัดสินกันที่ความแม่นและแรงปลาย ใครยืนระยะได้ดีกว่า มีสิทธิ์เก็บชัยชนะในช่วงยกสุดท้าย


💥 คู่ปิดท้าย: เพชรพยัคฆ์ขาว สจ.วิชิตแปดริ้ว vs เพชรบ้านไร่ ส.เฮงเจริญ

คู่สุดท้ายของวันนี้เป็นการเจอกันของสองนักมวยรุ่นเล็กที่ฝีมือจัดจ้านทั้งคู่ ต่างชั่งได้ตามพิกัด 100 ปอนด์ “เพชรพยัคฆ์ขาว” มีหมัดและศอกที่แม่นยำ ส่วน “เพชรบ้านไร่” เป็นมวยที่เน้นเกมรับและจังหวะสวน

นักชก พิกัด ผลชั่งน้ำหนัก จุดเด่น
เพชรพยัคฆ์ขาว สจ.วิชิตแปดริ้ว 100 ปอนด์ ตามพิกัด หมัดแรง ศอกคม
เพชรบ้านไร่ ส.เฮงเจริญ 100 ปอนด์ ตามพิกัด ตั้งรับเหนียว เตะขวาแม่น

วิเคราะห์สรุป:
คู่ปิดท้ายนี้น่าจะเป็นเกมเชิงเทคนิคแบบวัดจังหวะกันมากกว่า หากไม่มีการน็อก คาดว่าจะจบลงด้วยการชนะคะแนนของ “เพชรพยัคฆ์ขาว” ที่มีความแม่นและคมกว่าเล็กน้อย


🎯 บทสรุปภาพรวมศึกมวยดีวิถีไทย 5 ตุลาคม 2568

ศึก “มวยดีวิถีไทย” วันนี้จัดเต็มถึง 6 คู่ ทั้งหมดเป็นการพบกันของนักชกที่มีฝีมือสูสี ทำให้ทุกคู่มีความน่าติดตามในทุกยก แฟนมวยสามารถรับชมความมันส์ได้ที่ เวทีมวยกองทัพอากาศ ธูปะเตมีย์ ตั้งแต่เวลา 12.15 น. หรือชมถ่ายทอดสดผ่านช่องทางทีวีและออนไลน์

รายการนี้สะท้อนความแข็งแกร่งของวงการมวยไทยในยุคใหม่ ที่ยังคงอนุรักษ์ความดุดันและเทคนิคการต่อสู้แบบดั้งเดิมควบคู่กับความสนุกสนานทันสมัยอย่างลงตัว ใครที่รักศิลปะแม่ไม้มวยไทยห้ามพลาด!