โปรแกรมมวย ประจำวันที่ 28 กันยายน 2568 | ศึกมวยไทย 7 สี ณ เวทีมวยช่อง 7 สี เริ่มชกเวลา 14.30 น. เป็นรายการมวยไทยยอดนิยมที่แฟนมวยทั่วประเทศเฝ้าติดตามทุกสัปดาห์ ความพิเศษของศึกครั้งนี้อยู่ที่การรวมเอานักชกมากฝีมือจากค่ายดัง และดาวรุ่งไฟแรงที่พร้อมแสดงศักยภาพบนสังเวียนระดับประเทศ รายการนี้ไม่ใช่แค่การชกธรรมดา แต่เป็นเวทีที่เปิดโอกาสให้นักชกพิสูจน์ฝีมือและสร้างชื่อเสียง พร้อมทั้งถ่ายทอดสดให้ผู้ชมทางบ้านได้รับชมแบบติดขอบเวที

โปรแกรมมวย ประจำวันที่ 28 กันยายน 2568 | ศึกมวยไทย 7 สี

โปรแกรมมวย ประจำวันที่ 28 กันยายน 2568 | ศึกมวยไทย 7 สี

คู่ที่ ฝ่ายแดง พิกัด ชั่งได้ ฝ่ายน้ำเงิน พิกัด ชั่งได้
1 ทีม ผ้าเบรกคอมแพ็ค 102.0 ปอนด์ ตามพิกัด มรกตดำ ส.เปรมบุตร 102.0 ปอนด์ ขาด 0.4 ปอนด์
2 กัปตัน วันของโอม.WKO 113.0 ปอนด์ ตามพิกัด เพชรนิพล ป.มงคลอินทร์ 113.0 ปอนด์ ลด 0.2 ปอนด์
3 เด่น ศิษย์นายกทวีปตะพง 125.0 ปอนด์ ลด 0.4 ปอนด์ เพชรสังวาลย์ ส.สมานการ์เม้นท์ 125.0 ปอนด์ ขาด 0.2 ปอนด์
4 นิวเคลียร์ ส.สุภัทโท 119.0 ปอนด์ ขาด 0.2 ปอนด์ เสือสยาม ศิษย์บอลสกล 119.0 ปอนด์ ตามพิกัด
5 อาซีส เอราวัณ 104.0 ปอนด์ ลด 0.2 ปอนด์ โบวี่ ส.โชคมีชัย 104.0 ปอนด์ ตามพิกัด
6 จอร์จ พรัญชัย 108.0 ปอนด์ ตามพิกัด เพชรก้องฟ้า ว.เทคโนหลวงปู่สรวง 108.0 ปอนด์ ตามพิกัด

ไฮไลต์ความพิเศษของศึกมวยไทย 7 สี

ศึกมวยไทย 7 สี เป็นหนึ่งในรายการมวยไทยที่มีประวัติยาวนานและได้รับการยอมรับว่าคัดเลือกคู่มวยได้อย่างเข้มข้น เน้นคุณภาพมากกว่าปริมาณ คู่มวยที่จัดล้วนผ่านการคัดเลือกมาแล้วเพื่อให้ผู้ชมได้สัมผัสความดุเดือดเต็มพิกัด ตั้งแต่รุ่นเล็กที่ใช้ความเร็วและเทคนิค ไปจนถึงรุ่นใหญ่ที่อาศัยพละกำลังและประสบการณ์ เรียกว่าเป็นการผสมผสานศิลปะแม่ไม้มวยไทยในหลายสไตล์เพื่อสร้างความประทับใจให้กับแฟนมวยอย่างแท้จริง

โปรแกรมมวยและการวิเคราะห์เชิงลึกประจำวัน

สำหรับวันอาทิตย์ที่ 28 กันยายน 2568 ศึกมวยไทย 7 สี ได้เตรียมคู่มวยคุณภาพทั้งหมด 6 คู่มวย ที่มีทั้งนักชกรุ่นเล็กเชิงเร็ว ดาวรุ่งไฟแรง และนักชกมากประสบการณ์ การวิเคราะห์เชิงลึกในแต่ละคู่ต่อไปนี้จะช่วยให้แฟนมวยเข้าใจจุดเด่น จุดแข็ง และแนวทางการชกของนักมวยทั้งสองฝั่งได้ชัดเจน ทำให้การรับชมสนุกยิ่งขึ้น

คู่ที่ 1 – เปิดศึกนักชกรุ่น 102 ปอนด์

มุมแดง มุมน้ำเงิน
ทีม ผ้าเบรกคอมแพ็ค
พิกัด 102.0 ปอนด์ (ตามพิกัด)
มรกตดำ ส.เปรมบุตร
พิกัด 102.0 ปอนด์ (ขาด 0.4 ปอนด์)

คู่เปิดสนามถือเป็นการประเดิมความมันส์ของศึกนี้ ทีม ผ้าเบรกคอมแพ็ค เป็นนักชกที่ขึ้นชื่อเรื่องหมัดคมและเกมเชิงรัดกุม ส่วนมรกตดำ ส.เปรมบุตร มีจุดเด่นที่ความเร็วและการ์ดเหนียวแน่น ทำให้ไฟต์นี้เป็นการวัดกันระหว่างเทคนิคและความเร็ว ซึ่งจะปลุกกระแสแฟนมวยได้ตั้งแต่ไฟต์แรกอย่างแน่นอน

การวิเคราะห์เชิงเทคนิค

ทีมจะเน้นการเดินเข้าทำและออกหมัดชุดเพื่อกดดัน ขณะที่มรกตดำจะอาศัยความเร็วเคลื่อนที่และรอจังหวะสวน คาดการณ์ว่าไฟต์นี้จะเป็นเกมเร็วที่แลกหมัดดุเดือดตั้งแต่ต้นยก

คู่ที่ 2 – ศึกนักชกรุ่น 113 ปอนด์

มุมแดง มุมน้ำเงิน
กัปตัน วันของโอม.WKO
พิกัด 113.0 ปอนด์ (ตามพิกัด)
เพชรนิพล ป.มงคลอินทร์
พิกัด 113.0 ปอนด์ (ลด 0.2 ปอนด์)

คู่ที่สองเป็นการพบกันของนักชกรุ่น 113 ปอนด์ กัปตัน วันของโอม.WKO มีจุดเด่นที่การบุกหนักและหมัดแม่นยำ ส่วนเพชรนิพล ป.มงคลอินทร์ เชิงรับดีและมีหมัดสวนคม เป็นการวัดกันระหว่างพลังบุกกับการป้องกันแบบเหนียวแน่น

การวิเคราะห์เชิงเทคนิค

กัปตันจะเดินเกมรุกตั้งแต่ต้นเพื่อเก็บคะแนน ขณะที่เพชรนิพลจะใช้เชิงมวยรอจังหวะสวนกลับ การต่อสู้จึงอาจพลิกผันได้ทุกเมื่อ

คู่ที่ 3 – ดวลเดือดรุ่น 125 ปอนด์

มุมแดง มุมน้ำเงิน
เด่น ศิษย์นายกทวีปตะพง
พิกัด 125.0 ปอนด์ (ลด 0.4 ปอนด์)
เพชรสังวาลย์ ส.สมานการ์เม้นท์
พิกัด 125.0 ปอนด์ (ขาด 0.2 ปอนด์)

คู่ที่สามเป็นอีกคู่ที่แฟนมวยจับตามอง เด่น ศิษย์นายกทวีปตะพง เป็นนักชกสายบุกที่ออกหมัดหนัก ส่วนเพชรสังวาลย์ ส.สมานการ์เม้นท์ มีเกมรับเหนียวแน่นและสวนเฉียบคม ไฟต์นี้จึงเป็นการปะทะกันของสองสไตล์ที่ต่างกันอย่างชัดเจน

การวิเคราะห์เชิงเทคนิค

เด่นจะเดินเข้าทำเพื่อกดดันคู่ต่อสู้ ส่วนเพชรสังวาลย์จะตั้งการ์ดรอจังหวะสวนกลับ คาดการณ์ว่าเกมนี้จะเข้มข้นทุกยกและแฟนมวยจะได้เห็นหมัดเด็ดจากทั้งสองฝั่ง

คู่ที่ 4 – เกมเชิงรุ่น 119 ปอนด์

มุมแดง มุมน้ำเงิน
นิวเคลียร์ ส.สุภัทโท
พิกัด 119.0 ปอนด์ (ขาด 0.2 ปอนด์)
เสือสยาม ศิษย์บอลสกล
พิกัด 119.0 ปอนด์ (ตามพิกัด)

คู่ที่สี่เป็นการพบกันของนักชกรุ่น 119 ปอนด์ นิวเคลียร์ ส.สุภัทโท เชิงรุกเร็วและออกหมัดชุดได้แม่นยำ ส่วนเสือสยาม ศิษย์บอลสกล เชิงมวยจัดจ้านและมีลูกล่อลูกชน การปะทะครั้งนี้จึงน่าสนใจเพราะจะเป็นการวัดกันของเกมเร็วและเกมเชิงละเอียด

การวิเคราะห์เชิงเทคนิค

นิวเคลียร์จะบุกเร็วเพื่อควบคุมเกม ขณะที่เสือสยามจะรอจังหวะทำและใช้ลูกเล่นหลากหลาย คาดว่าเกมนี้จะมีการแลกอาวุธอย่างต่อเนื่องและตื่นเต้นตลอดทั้งยก

คู่ที่ 5 – ดาวรุ่งรุ่น 104 ปอนด์

มุมแดง มุมน้ำเงิน
อาซีส เอราวัณ
พิกัด 104.0 ปอนด์ (ลด 0.2 ปอนด์)
โบวี่ ส.โชคมีชัย
พิกัด 104.0 ปอนด์ (ตามพิกัด)

คู่ที่ห้าเป็นการพบกันของนักชกดาวรุ่งในรุ่น 104 ปอนด์ อาซีส เอราวัณ มีหมัดคมและออกอาวุธได้ต่อเนื่อง ขณะที่โบวี่ ส.โชคมีชัย เน้นบุกดุดันและมีการ์ดเหนียวแน่น เป็นอีกไฟต์ที่แฟนมวยไม่ควรพลาด

การวิเคราะห์เชิงเทคนิค

อาซีสจะเน้นออกหมัดคมเพื่อเก็บคะแนน ขณะที่โบวี่จะเดินเข้าทำเพื่อกดดัน การแข่งขันจะเป็นการวัดกันว่าใครจะพลาดน้อยกว่ากัน

คู่ที่ 6 – คู่ปิดท้ายรุ่น 108 ปอนด์

มุมแดง มุมน้ำเงิน
จอร์จ พรัญชัย
พิกัด 108.0 ปอนด์ (ตามพิกัด)
เพชรก้องฟ้า ว.เทคโนหลวงปู่สรวง
พิกัด 108.0 ปอนด์ (ตามพิกัด)

คู่ปิดท้ายรายการเป็นการพบกันของนักชกรุ่น 108 ปอนด์ จอร์จ พรัญชัย เชิงมวยละเอียดและออกหมัดแม่นยำ ส่วนเพชรก้องฟ้า ว.เทคโนหลวงปู่สรวง เป็นนักชกที่บุกหนักและใช้พละกำลังสร้างความได้เปรียบ เป็นไฟต์ที่น่าติดตามเพราะจะเป็นการปิดท้ายศึกนี้อย่างสมบูรณ์แบบ

การวิเคราะห์เชิงเทคนิค

จอร์จจะคุมเกมด้วยเชิงมวยที่ละเอียด ขณะที่เพชรก้องฟ้าจะบุกหนักเพื่อสร้างแรงกดดัน คาดการณ์ว่าไฟต์นี้จะแลกหมัดกันอย่างดุเดือดทุกวินาที

บทสรุปความมันส์ของศึกมวยไทย 7 สี

ศึกมวยไทย 7 สี วันอาทิตย์ที่ 28 กันยายน 2568 ณ เวทีมวยช่อง 7 สี ถือเป็นอีกหนึ่งรายการใหญ่ที่แฟนมวยไม่ควรพลาด ตั้งแต่คู่เปิดสนามจนถึงคู่ปิดท้าย ทุกไฟต์ถูกจัดอย่างมีคุณภาพและสร้างความตื่นเต้นให้กับผู้ชมทั้งในสนามและทางบ้าน การจัดศึกครั้งนี้ไม่เพียงแต่ให้ความบันเทิง แต่ยังเป็นเวทีสำคัญในการผลักดันนักชกรุ่นใหม่ให้ก้าวขึ้นสู่การเป็นแชมป์ในอนาคต พร้อมสร้างความประทับใจให้กับผู้ชมอย่างแน่นอน