โปรแกรมมวย ประจำวันที่ 28 กันยายน 2568 | ศึกมวยดีวิถีไทย เตรียมพบกับความมันส์แบบต้นตำรับมวยไทยใน “ศึกมวยดีวิถีไทย” วันอาทิตย์ที่ 28 กันยายน 2568 ณ เวทีมวยกองทัพอากาศ ธูปะเตมีย์ เริ่มชกตั้งแต่เวลา 12.15 น. รายการนี้ถือเป็นอีกหนึ่งเวทีมวยสำคัญของประเทศไทยที่แฟนมวยรอคอย ด้วยการรวมเอานักชกมากฝีมือและดาวรุ่งไฟแรงจากหลายค่ายดังมาประชันกันอย่างดุเดือดตลอดทั้งวัน บรรยากาศในสนามจะเต็มไปด้วยเสียงเชียร์ที่กระหึ่มและความคึกคัก ขณะที่ผู้ชมทางบ้านก็สามารถติดตามการถ่ายทอดสดได้อย่างใกล้ชิดเสมือนอยู่ติดขอบเวที

โปรแกรมมวย ประจำวันที่ 28 กันยายน 2568 | ศึกมวยดีวิถีไทย

โปรแกรมมวย ประจำวันที่ 28 กันยายน 2568 | ศึกมวยดีวิถีไทย

คู่ที่ ฝ่ายแดง พิกัด ชั่งได้ ฝ่ายน้ำเงิน พิกัด ชั่งได้
1 ฟ้ามงคล ศักดิ์แสนพล 39.0 กก. ตามพิกัด มหาดเล็ก ลูกพ่อพญาเสือ 39.0 กก. ขาด 0.2 กก.
2 อัญชัน เจพาวเวอร์รูฟเชียงใหม่ 100.0 ปอนด์ ตามพิกัด ศิลปะไทย สากุลรัตนะ 100.0 ปอนด์ ตามพิกัด
3 แรมโบ้ JF.พุ่มพันธ์ม่วง 126.0 ปอนด์ ขาด 1.4 ปอนด์ ดาวคะนอง เพชรบ้านบึง 127.0 ปอนด์ ขาด 1.4 ปอนด์
4 ฉัตรเงินเล็ก พชรยิมส์ 123.0 ปอนด์ ขาด 1.8 ปอนด์ ธีระภัทร ศิษย์ครูชาติ 123.0 ปอนด์ ลด 1.0 ปอนด์
5 ซ้ายนคร หจก.กุ๊ปกุ๊ปสุทธิ 100.0 ปอนด์ ตามพิกัด เด็ดดวง เกียรติเขาน้อย 100.0 ปอนด์ ตามพิกัด
6 ศักดา ไอ้หนูนครบาล 100.0 ปอนด์ ตามพิกัด เพชรสายฝน ซันรัตภูมิ 100.0 ปอนด์ ตามพิกัด

ไฮไลต์ความพิเศษของศึกมวยดีวิถีไทย

ศึกมวยดีวิถีไทยเป็นรายการมวยที่ขึ้นชื่อในด้านคุณภาพของคู่มวยและการจัดรายการที่มีมาตรฐานสูง รวมเอานักชกหลายสไตล์ตั้งแต่รุ่นเล็กที่เน้นความเร็วและเทคนิค ไปจนถึงรุ่นใหญ่ที่ใช้พละกำลังและประสบการณ์ เป็นเวทีที่เปิดโอกาสให้ดาวรุ่งได้พิสูจน์ฝีมือ และยังคงเป็นสนามทดสอบนักชกมากฝีมือจากค่ายดังทั่วประเทศ ทุกคู่ถูกจัดอย่างลงตัวเพื่อให้แฟนมวยได้รับชมศิลปะแม่ไม้มวยไทยแบบเต็มอิ่ม พร้อมสร้างสีสันและความตื่นเต้นให้กับวงการมวยไทยอย่างแท้จริง

โปรแกรมมวยและการวิเคราะห์เชิงลึกประจำวัน

สำหรับวันอาทิตย์ที่ 28 กันยายน 2568 ศึกมวยดีวิถีไทยมีทั้งหมด 6 คู่มวยที่จัดเต็มไปด้วยคุณภาพ ทั้งนักชกเชิงรุก นักชกเชิงรับ นักชกดาวรุ่งไฟแรง และนักชกมากประสบการณ์ การวิเคราะห์เชิงลึกต่อไปนี้จะช่วยให้แฟนมวยมองเห็นจุดเด่นและสไตล์ของแต่ละคนได้ชัดเจน ทำให้การรับชมสนุกยิ่งขึ้นและเต็มไปด้วยข้อมูลประกอบการเชียร์

คู่ที่ 1 – เปิดศึกนักชกรุ่น 39 กก.

มุมแดง มุมน้ำเงิน
ฟ้ามงคล ศักดิ์แสนพล
พิกัด 39.0 กก. (ตามพิกัด)
มหาดเล็ก ลูกพ่อพญาเสือ
พิกัด 39.0 กก. (ขาด 0.2 กก.)

คู่เปิดสนามเป็นการพบกันของนักชกรุ่น 39 กก.ที่น่าตื่นเต้น ฟ้ามงคล ศักดิ์แสนพล เป็นนักชกที่มีเชิงมวยจัดจ้านและออกหมัดแม่นยำ ส่วนมหาดเล็ก ลูกพ่อพญาเสือ เป็นนักชกที่เน้นความเร็วและการ์ดแน่น ไฟต์นี้จึงเป็นการวัดกันระหว่างเทคนิคที่ละเอียดกับพลังบุกที่ดุดัน สร้างสีสันและเรียกเสียงเชียร์ได้ตั้งแต่ไฟต์แรก

การวิเคราะห์เชิงเทคนิค

ฟ้ามงคลมีจุดเด่นที่การตั้งการ์ดแน่นและการออกหมัดแม่นยำสามารถสกัดจังหวะคู่ต่อสู้ได้ดี ขณะที่มหาดเล็กมีความเร็วและการเดินเข้าหาคู่ต่อสู้อย่างต่อเนื่อง คาดการณ์ว่าฟ้ามงคลจะเน้นการสวนจังหวะ ขณะที่มหาดเล็กจะพยายามเดินบุกเก็บคะแนน เป็นการปะทะของสไตล์รัดกุมกับสไตล์บุกดุดันที่แฟนมวยต้องลุ้นทุกวินาที

คู่ที่ 2 – ดวลศิลปะแม่ไม้มวยไทยรุ่น 100 ปอนด์

มุมแดง มุมน้ำเงิน
อัญชัน เจพาวเวอร์รูฟเชียงใหม่
พิกัด 100.0 ปอนด์ (ตามพิกัด)
ศิลปะไทย สากุลรัตนะ
พิกัด 100.0 ปอนด์ (ตามพิกัด)

คู่ที่สองเป็นการพบกันของนักชกรุ่น 100 ปอนด์ที่ชื่อก็บอกถึงสไตล์การชก อัญชัน เจพาวเวอร์รูฟเชียงใหม่ เน้นออกหมัดชุดและเดินเข้าหาคู่ต่อสู้อย่างมั่นใจ ขณะที่ศิลปะไทย สากุลรัตนะ เน้นตั้งรับเหนียวและสวนคม ไฟต์นี้จะเป็นการวัดกันระหว่างเกมรุกที่รวดเร็วและเกมรับที่ชาญฉลาดซึ่งจะทำให้ผู้ชมได้เห็นศิลปะแม่ไม้มวยไทยแท้จริง

การวิเคราะห์เชิงเทคนิค

อัญชันมีการเคลื่อนไหวที่คล่องตัวและออกหมัดได้ต่อเนื่อง ขณะที่ศิลปะไทยมีการ์ดแน่นและหมัดสวนที่หนักหน่วง คาดว่าไฟต์นี้จะเป็นเกมเร็วแลกหมัดดุเดือดตั้งแต่ต้นยกจนจบยกสุดท้าย

คู่ที่ 3 – เกมเชิงไฟแรงรุ่น 126–127 ปอนด์

มุมแดง มุมน้ำเงิน
แรมโบ้ JF.พุ่มพันธ์ม่วง
พิกัด 126.0 ปอนด์ (ขาด 1.4 ปอนด์)
ดาวคะนอง เพชรบ้านบึง
พิกัด 127.0 ปอนด์ (ขาด 1.4 ปอนด์)

คู่ที่สามเป็นการพบกันของนักชกรุ่น 126–127 ปอนด์ แรมโบ้ JF.พุ่มพันธ์ม่วง เป็นนักชกที่มีเชิงบุกต่อเนื่องและออกหมัดได้หนักหน่วง ส่วนดาวคะนอง เพชรบ้านบึง เป็นนักชกที่ป้องกันแน่นและสวนกลับได้ดี ทำให้ไฟต์นี้เป็นการวัดกันระหว่างเกมรุกและการป้องกันที่น่าตื่นเต้น

การวิเคราะห์เชิงเทคนิค

แรมโบ้มีการเคลื่อนไหวที่คล่องตัวและออกหมัดได้ต่อเนื่อง ขณะที่ดาวคะนองมีการ์ดแน่นและหมัดสวนที่หนักหน่วง คาดว่าไฟต์นี้จะเป็นเกมเร็วแลกหมัดดุเดือดตั้งแต่ต้นยกจนจบยกสุดท้าย

คู่ที่ 4 – ศึกความเร็วรุ่น 123 ปอนด์

มุมแดง มุมน้ำเงิน
ฉัตรเงินเล็ก พชรยิมส์
พิกัด 123.0 ปอนด์ (ขาด 1.8 ปอนด์)
ธีระภัทร ศิษย์ครูชาติ
พิกัด 123.0 ปอนด์ (ลด 1.0 ปอนด์)

คู่ที่สี่เป็นการพบกันของนักชกรุ่น 123 ปอนด์ ฉัตรเงินเล็ก พชรยิมส์ เป็นนักชกที่มีเชิงรุกเร็วและออกหมัดแม่นยำ ส่วนธีระภัทร ศิษย์ครูชาติ เป็นนักชกที่เชิงรับและสวนคม ทำให้ไฟต์นี้เป็นการปะทะกันของเทคนิคและพละกำลังที่แฟนมวยไม่ควรพลาด

การวิเคราะห์เชิงเทคนิค

ฉัตรเงินเล็กมีจุดเด่นที่เชิงมวยละเอียดและการตั้งการ์ดแน่น ส่วนธีระภัทรมีพลังหมัดหนักและบุกไม่หยุด คาดการณ์ว่าไฟต์นี้จะเป็นการแลกหมัดอย่างต่อเนื่องและอาจมีการพลิกเกมได้ทุกเมื่อ

คู่ที่ 5 – ดาวรุ่งรุ่น 100 ปอนด์

มุมแดง มุมน้ำเงิน
ซ้ายนคร หจก.กุ๊ปกุ๊ปสุทธิ
พิกัด 100.0 ปอนด์ (ตามพิกัด)
เด็ดดวง เกียรติเขาน้อย
พิกัด 100.0 ปอนด์ (ตามพิกัด)

คู่ที่ห้าเป็นการพบกันของนักชกรุ่น 100 ปอนด์ ซ้ายนคร หจก.กุ๊ปกุ๊ปสุทธิ เป็นนักชกที่ออกหมัดซ้ายแม่นยำและเดินเข้าหาคู่ต่อสู้อย่างมั่นใจ ขณะที่เด็ดดวง เกียรติเขาน้อย เป็นนักชกที่บุกดุดันและมีการ์ดแน่น ทำให้ไฟต์นี้เป็นการวัดกันของเกมรุกและการป้องกันที่น่าติดตาม

การวิเคราะห์เชิงเทคนิค

ซ้ายนครเน้นการออกหมัดซ้ายต่อเนื่องเพื่อกดดัน ขณะที่เด็ดดวงตั้งการ์ดเหนียวแน่นและรอจังหวะสวนกลับ คาดการณ์ว่าไฟต์นี้จะเป็นเกมเร็วที่แฟนมวยได้ลุ้นทุกยก

คู่ที่ 6 – คู่ปิดท้ายรุ่น 100 ปอนด์

มุมแดง มุมน้ำเงิน
ศักดา ไอ้หนูนครบาล
พิกัด 100.0 ปอนด์ (ตามพิกัด)
เพชรสายฝน ซันรัตภูมิ
พิกัด 100.0 ปอนด์ (ตามพิกัด)

คู่ปิดท้ายรายการเป็นการพบกันของนักชกรุ่น 100 ปอนด์ ศักดา ไอ้หนูนครบาล เป็นนักชกที่มีเชิงมวยละเอียดและออกหมัดแม่นยำ ส่วนเพชรสายฝน ซันรัตภูมิ เป็นนักชกที่บุกหนักและใช้พละกำลังสร้างความได้เปรียบ ทำให้ไฟต์นี้เป็นการวัดกันของเทคนิคและพละกำลังอย่างแท้จริง

การวิเคราะห์เชิงเทคนิค

ศักดามีเชิงมวยละเอียดและการตั้งการ์ดแน่น ขณะที่เพชรสายฝนบุกหนักและออกหมัดได้ต่อเนื่อง คาดการณ์ว่าไฟต์นี้จะเป็นการแลกหมัดดุเดือดตั้งแต่ต้นยกจนจบ

บทสรุปความมันส์ของศึกมวยดีวิถีไทย

ศึกมวยดีวิถีไทย วันอาทิตย์ที่ 28 กันยายน 2568 ณ เวทีมวยกองทัพอากาศ ธูปะเตมีย์ ถือเป็นอีกหนึ่งรายการใหญ่ที่รวมนักชกมากฝีมือและดาวรุ่งไว้อย่างครบถ้วน ตั้งแต่คู่เปิดสนามจนถึงคู่ปิดท้ายที่น่าตื่นเต้น แฟนมวยที่เข้ามาชมในสนามจะได้สัมผัสบรรยากาศสด ๆ และลุ้นทุกยก ส่วนผู้ชมทางบ้านก็สามารถติดตามได้ทางช่องถ่ายทอดสด การจัดศึกครั้งนี้ไม่เพียงแต่ให้ความบันเทิง แต่ยังเป็นเวทีผลักดันนักชกรุ่นใหม่ให้ก้าวขึ้นสู่การเป็นแชมป์ในอนาคต และสร้างความประทับใจให้กับผู้ชมอย่างแน่นอน