ศึกมวยไทยระดับคุณภาพบนเวทีราชดำเนินครั้งนี้จับตามองที่คู่เอกสุดดุเดือด ไทยแลนด์ ส.รุ่งศักดิ์ vs ก้องมีชัย ว.วันนิมิตร ในพิกัด 116 ปอนด์ โดยมีสัญญาณถ่ายทอดสดทางช่อง ททบ.5 เวลา 18:00 น. ซึ่งถือเป็นแมตช์อาวุธหนักระหว่างมวยฝีมือครบเครื่องกับมวยบู๊ขวาเปิดเกมที่ยืนระยะปลายแข็งแกร่ง สไตล์ปะทะเช่นนี้ทำให้เรตเปิด “ครบยกต่อ 2/1” บ่งชี้ว่ามีลุ้นไม่ครบยกสูง และน่าจะเป็นไฟต์ที่แฟนมวยกล่าวถึงด้วยความมันสะใจอีกนาน
ไทยแลนด์ ส.รุ่งศักดิ์ vs ก้องมีชัย ว.วันนิมิตร
เวทีราชดำเนินคือสังเวียนอันทรงเกียรติที่พิสูจน์ตัวตนของนักชกไทยมาหลายยุค การขึ้นสังเวียนของทั้งสองในค่ำคืนนี้จึงเป็นบททดสอบสำคัญ ไทยแลนด์ ส.รุ่งศักดิ์ หนุ่มวัย 19 ปีจากสุรินทร์ ซ้อมเข้มที่ส.รุ่งศักดิ์ พระราม 2 ต้องปะทะกับ ก้องมีชัย ว.วันนิมิตร ดาวรุ่งวัย 17 ปีจากร้อยเอ็ด ซ้อมกับทีมศิษย์หมอลำบุญ ซึ่งทั้งคู่ต่างสะสมประสบการณ์มาไม่น้อย แม้ไม่เคยพบกันมาก่อนแต่ด้วยพลังหนุ่มบวกคลังอาวุธครบมือ จังหวะและแรงปะทะย่อมเดือดตั้งแต่ระฆังยกแรก
| รายการ | รายละเอียด |
|---|---|
| รายการแข่งขัน | ศึกท่อน้ำไทยเกียรติเพชร |
| เวที | เวทีราชดำเนิน |
| เวลา | 18:00 น. |
| ถ่ายทอดสด | ช่อง ททบ.5 |
| พิกัด | 116 ปอนด์ |
| เรตเปิด | ครบยกต่อ 2/1 |
| สถิติการพบกัน | ไม่เคยพบกัน |
ตารางมวยไทยครบทุกคู่ พร้อมลิงก์ถ่ายทอดสดวันนี้! รวมทุกศึก ทุกสังเวียน ดูสดได้ในที่เดียว
โปรไฟล์นักชก & จุดขาย (Fighter Profiles & Hooks)
มุมแดง – ไทยแลนด์ ส.รุ่งศักดิ์ (ไทยแลนด์เล็ก เจริญเมืองมวยไทย)
ไทยแลนด์ ส.รุ่งศักดิ์ ชั่งได้ 116 ปอนด์ มาจากจังหวัดสุรินทร์ อายุเพียง 19 ปี แต่ผ่านเวทีมาแล้วราวเก้าสิบกว่าไฟต์ โดดเด่นด้วยความเป็นมวยฝีมือครบเครื่อง ระยะเท้า–มือแน่นและอ่านเกมไว จุดขายคือเตะซ้ายคม หมัดซัดแรง และการโยนเข่าที่บู๊ดุดันดุดัน สามารถกดจังหวะสองสวนกลับได้อันตราย เมื่อจับระยะได้มักปล่อยหมัด–ศอกผสมกันสร้างความเสียหายก่อนย้ำเข่าทำคะแนน จึงเป็นนักชกที่คู่ต่อสู้ประมาทไม่ได้แม้เสี้ยววินาทีเดียว
ฟอร์มหลังของไทยแลนด์สะท้อนความมั่นใจชัดเจน แม้เคยสะดุดแพ้น็อกยกหนึ่งต่อฮารุยูกิ ทานิตสึในพิกัด 120 ปอนด์ที่ ONE ลุมพินี เมื่อ 10 มกราคม 2568 แต่หลังจากนั้นกระชับเกมและคืนฟอร์มได้ทันที ชนะคะแนนยอดเพชร ราชานนท์ที่ราชดำเนินเมื่อ 20 กรกฎาคม 2568 ต่อด้วยชนะน็อกยกสามชายใหญ่ ว.สุขสันต์ในฐานะมวยแทน และปิดท้ายด้วยชนะน็อกยกสองเมืองช้าง ส.เดชะพันธ์ที่อ้อมน้อย ความต่อเนื่องเช่นนี้ทำให้กราฟความมั่นใจพุ่งสูงและน่าเกรงขามยิ่งขึ้นสำหรับการเจอคู่บู๊อย่างก้องมีชัย
มุมน้ำเงิน – ก้องมีชัย ว.วันนิมิตร (ส.บางระจัน/จิตรเมืองนนท์/ศิษย์หมอลำบุญ)
ก้องมีชัย ว.วันนิมิตร เป็นมวยบู๊ขวาเปิดเกมที่ขึ้นชื่อเรื่องความดุดัน ชั่งได้ 116 ปอนด์ มาจากจังหวัดร้อยเอ็ด อายุ 17 ปี ผ่านสังเวียนมาแล้วกว่า 60 ไฟต์ จุดเด่นคือการเดินกดดันต่อเนื่อง เตะขวา–ต่อยขวาเป็นคลื่น และเมื่อเข้าระยะชอบจะล็อกรัดตีได้เหนียวแน่น เล่นงานลำตัวและต้นคอจนคู่แข่งยุบปลาย หมัด–แข้งของก้องมีชัยมีพลังทำลายสูง เมื่อบวกกับสภาพร่างกายสดและฝึกซ้อมเข้มกับค่ายศิษย์หมอลำบุญ ยิ่งทำให้เกมเปิดลุยมีอัตราสำเร็จสูงในช่วงกลางถึงปลายยก
ฟอร์มหลังของก้องมีชัยสะท้อนภาพมวยหนุ่มกำลังไต่ระดับ ชนะคะแนนนำโชค ลานนามวยไทยที่เชียงใหม่เมื่อ 28 มิถุนายน 2568 ก่อนจะพ่ายคะแนนกัปตัน วันของโอม MBK ที่ราชดำเนินวันที่ 27 กรกฎาคม 2568 และพ่ายคะแนนแสงตะวัน ส.พงษ์อมรที่อ้อมน้อยเมื่อ 20 กันยายน 2568 ในเงื่อนไขต่อน้ำหนักและคู่ชกลดไม่ลงถึงสามปอนด์ อย่างไรก็ดี ความแพ้สองไฟต์หลังไม่ได้บั่นทอนความแข็งแกร่งปลายยกของเจ้าตัว กลับยิ่งกระตุ้นให้เปิดเกมเร็ว ลดที่ว่าง และเอาคืนด้วยแรงปะทะที่หนักหน่วงกว่าเดิม
เฮดทูเฮด & เทียบสรีระ (H2H & Tale of the Tape)
แม้ คู่เอกมวยวันนี้ จะยังไม่เคยพบกันมาก่อน แต่เมื่อพิจารณาสรีระและอุปนิสัยการชกจะเห็นสมการที่น่าสนใจ ไทยแลนด์ได้เปรียบช่วงชัดที่ส่วนสูง 170 เซนติเมตรเมื่อเทียบกับก้องมีชัย 165 เซนติเมตร ทำให้การคุมระยะและจังหวะสองมีมิติมากกว่า ขณะที่ก้องมีชัยได้เปรียบด้านพละกำลังดิบและแรงผลักดันเกม เดินชนได้โดยไม่กลัวบาดเจ็บง่าย การเข้าประกบล็อกคอแล้วตีในจังหวะสั้นๆ สามารถพลิกกระแสยกได้เร็ว หากไทยแลนด์รักษาระยะไม่ได้โอกาสโดนโหมบี้ต่อเนื่องก็มีสูง
| หัวข้อเทียบ | ไทยแลนด์ ส.รุ่งศักดิ์ | ก้องมีชัย ว.วันนิมิตร |
|---|---|---|
| สังกัด/ค่ายซ้อม | ส.รุ่งศักดิ์ พระราม 2 | ศิษย์หมอลำบุญ ร้อยเอ็ด |
| อายุ | 19 ปี | 17 ปี |
| พิกัดชั่ง | 116 ปอนด์ | 116 ปอนด์ |
| ส่วนสูง | 170 ซม. | 165 ซม. |
| ไฟต์รวมโดยประมาณ | 90+ ไฟต์ | 60+ ไฟต์ |
| สไตล์หลัก | ฝีมือครบเครื่อง เตะซ้าย หมัดแรง ศอกไว โยนเข่าดุดัน | บู๊ขวา เปิดเกม เตะ–ต่อยขวา ล็อกรัดตีเหนียว ปลายแข็งแกร่ง |
| จุดแข็งเด่น | คุมระยะดี จังหวะสองคม สวนศอกแม่น ทำคะแนนต่อเนื่อง | แรงปะทะสูง กดดันไม่หยุด เข้าไคล์นชิงวงในได้ผล |
| จุดต้องระวัง | ถูกบี้ระยะใกล้นานๆ อาจเสียจังหวะโดนไล่บด | เจอเตะซ้าย–ศอกสวนบ่อย หากพลาดอาจโดนนับหรือน็อก |
ตารางฟอร์มล่าสุดของทั้งสองมุม
การอ่านฟอร์มหลังไม่ใช่เพียงดูผลแพ้ชนะ แต่ต้องวิเคราะห์บริบทเวที พิกัด น้ำหนัก และรูปแบบการจบยกด้วย ตารางด้านล่างสรุปเส้นทางช่วงหลังของทั้งสอง เพื่อชี้ให้เห็นโมเมนตัม ความคมของอาวุธ และความเข้าใจเกมที่กำลังไต่ระดับขึ้น โดยเฉพาะจังหวะเก็บน็อกของไทยแลนด์ในสองไฟต์ซ้อน และความทรหดของก้องมีชัยที่ยังคงเดินเกมได้แม้เจอเงื่อนไขน้ำหนักเสียเปรียบ
| นักชก | ผล | คู่ชก | วันที่/เวที | พิกัด | รายละเอียดยก |
|---|---|---|---|---|---|
| ไทยแลนด์ ส.รุ่งศักดิ์ | แพ้น็อก | ฮารุยูกิ ทานิตสึ | 10 ม.ค. 2568 / ONE ลุมพินี | 120 ปอนด์ | ยก 1 |
| ไทยแลนด์ ส.รุ่งศักดิ์ | ชนะคะแนน | ยอดเพชร ราชานนท์ | 20 ก.ค. 2568 / รดน. | 116.4-.4 | ครบยก |
| ไทยแลนด์ ส.รุ่งศักดิ์ | ชนะน็อก | ชายใหญ่ ว.สุขสันต์ | 17 ส.ค. 2568 / รดน. | 116.7-.7 | ยก 3 (มวยแทน) |
| ไทยแลนด์ ส.รุ่งศักดิ์ | ชนะน็อก | เมืองช้าง ส.เดชะพันธ์ | 20 ก.ย. 2568 / อ้อมน้อย | 116.4-.4 | ยก 2 |
| ก้องมีชัย ว.วันนิมิตร | ชนะคะแนน | นำโชค ลานนามวยไทย | 28 มิ.ย. 2568 / จ.เชียงใหม่ | 114.8 ลด .8 | ครบยก |
| ก้องมีชัย ว.วันนิมิตร | แพ้คะแนน | กัปตัน วันของโอม MBK | 27 ก.ค. 2568 / รดน. | 116-2 | ครบยก |
| ก้องมีชัย ว.วันนิมิตร | แพ้คะแนน | แสงตะวัน ส.พงษ์อมร | 20 ก.ย. 2568 / อ้อมน้อย | 118 ต่อน.น. คู่ชกลดไม่ลง 3 ป. | ครบยก |
วิเคราะห์แท็คติก & โครงเรื่องการชก (Tactics & Fight Narrative)
โครงเรื่องไฟต์นี้ชัดเจน: ไทยแลนด์ต้องคุมระยะกลาง–ไกลด้วยเตะซ้ายที่คมและหมัดหนึ่ง–สองเพื่อบล็อกการพุ่งเข้าของก้องมีชัย ถ้าคู่ต่อสู้เข้าระยะประชิดให้ใช้ศอกสวนบนทางตรงหรือศอกสั้นตัดจังหวะก่อนโยนเข่าแทรกเพื่อทำลายพลังไล่บี้ อีกจุดสำคัญคืออย่าแลกหมัดนานเกินไปในมุมติดเชือก เพราะจะเปิดช่องให้ก้องมีชัยเข้าไคล์นล็อกคอและตีวงในได้ถนัด การรักษาเท้าให้เบา ขยับออกซ้ายตัดมุม แล้วสวนศอกกลับถือเป็น ”กุญแจ” ที่ทำให้ไทยแลนด์คุมเกมได้ตั้งแต่ต้น
ในทางกลับกัน ก้องมีชัยต้อง “ตัดเวลาคิด” ของไทยแลนด์ด้วยการเปิดเกมทันทีหลังเสียงระฆัง รุกเข้าใกล้โดยไม่ให้พื้นที่ฟรี และเน้นเตะขวาตัดลำตัวเพื่อทำลายฐานของคู่แข่ง เมื่อได้ตำแหน่งให้สอดแขนล็อก ใช้หัวไหล่กดและตีวงในซ้ำๆ เพื่อบีบให้ไทยแลนด์เสียจังหวะ ยิ่งเกมยืดไปยก 3–4 แรงปะทะของก้องมีชัยมักเห็นผลชัด หากกดดันต่อเนื่องโดยไม่รีบแลกหมัดกลางอากาศ ก็มีโอกาสทำให้ไทยแลนด์ติดมุมและเกิดผลทางคะแนนหรือจังหวะนับได้
จุดเปลี่ยน–กุญแจสู่ชัยชนะ (Keys to Victory)
สำหรับไทยแลนด์ กุญแจอยู่ที่การรักษาวินัยระยะและความคมของจังหวะสอง ใช้เตะซ้ายหั่นเกมอย่างสม่ำเสมอแล้วค่อยปักหมุดด้วยศอกสวน หากเกิดสถานการณ์แลกหนักควรเป็นฝ่ายเริ่มก่อนหรือจบก่อนเสมอเพื่อไม่ปล่อยให้ถูกกดดันต่อเนื่อง ขณะที่ก้องมีชัยต้องย้ำการเข้าประกบอย่างมีระบบ ไม่ไล่ชนแบบไม่มีแพตเทิร์น เมื่อได้กุมคอให้ตีลำตัวสลับศอกในระยะสั้นเพื่อตัดลมหายใจ และสำคัญที่สุดคืออย่าปล่อยให้ไทยแลนด์ถอยออกสู่กลางเวที เพราะนั่นคือพื้นที่ที่มวยฝีมือจะทำงานได้เต็มประสิทธิภาพ
ราคาต่อรอง & มุมมองเชิงตัวเลข (Odds & Angles)
เรตเปิดในลักษณะ “ครบยกต่อ 2/1” สะท้อนความเชื่อมั่นของตลาดว่ามีสิทธิ์จบไวจากอาวุธหนักทั้งสองฝั่ง ไทยแลนด์มีหมัด–ศอกที่จบงานได้ ขณะที่ก้องมีชัยเมื่อเร่งเครื่องติดแล้ววงในดุดันไม่แพ้ใคร ปัจจัยที่อาจเขย่าราคาในวันแข่งคือสภาพร่างกายหลังชั่งจริงและการยืนระยะปลายยก หากก้องมีชัยตัดลมหายใจคู่แข่งได้ตั้งแต่ยกสอง–สาม ราคาจะไหลเข้ามุมน้ำเงินเร็ว แต่ถ้าไทยแลนด์อ่านทางได้ไวและคุมจังหวะจนอีกฝ่ายเข้ายาก เรตฝั่งแดงอาจแข็งขึ้นทันที
วิธีรับชม & ไทม์ไลน์ก่อนชก
ผู้ชมสามารถรับชมศึก มวยวันนี้ ได้ทางช่อง ททบ.5 เวลา 18:00 น. แนะนำติดตามประกาศคิวถ่ายทอดก่อนเริ่ม รวมถึงเช็กอัปเดตน้ำหนักวันจริงและรายชื่อกรรมการหากมีการเปลี่ยนแปลงในช่วงใกล้ชก เนื่องจากรายละเอียดเล็กน้อยอย่างการชั่งเกินเล็กน้อยหรือคู่รองที่เลื่อนเวลาสามารถส่งผลต่อจังหวะวอร์มอัพและสภาพจิตใจของนักชก ซึ่งเป็นองค์ประกอบที่ทำให้พลิกผลการแข่งขันได้บนสังเวียนระดับราชดำเนิน
ฉากทัศน์การแข่งขัน (Fight Scenarios)
ฉากทัศน์แรกคือไทยแลนด์เปิดเกมด้วยเตะซ้ายคุมจังหวะ กัดฟันสวนศอกเมื่อถูกบี้ และอาจมีจังหวะหมัด–ศอกที่ทำให้ก้องมีชัยชะงัก จนนำไปสู่การเร่งเครื่องปิดเกมในยกกลางๆ ส่วนฉากทัศน์ที่สองคือก้องมีชัยปิดพื้นที่เร็ว ใช้เตะขวาตัดลำตัวจนไทยแลนด์ช้าลง แล้วพาเกมเข้าวงในล็อกรัดตีอย่างมีวินัย หากเกิด “จังหวะหลุด” เพียงครั้งเดียวอาจกลายเป็นแต้มชี้ขาดหรือนับได้ สองสไตล์ที่ปะทะกันจึงสร้างโอกาสเกิดน็อกเอาต์สูงและยากที่จะยืนกันครบห้ายกหากความร้อนแรงยังรักษาได้ตลอด
บทสรุป–ฟันธง (Pick & Confidence)
เมื่อชั่งน้ำหนักองค์รวมทั้งฟอร์มหลัง ความคมอาวุธ และสมการสไตล์ ปัจจัยชี้ขาดอยู่ที่ใคร “พลาดก่อน” มากกว่าใครเหนียวแน่นกว่า ไทยแลนด์ได้เปรียบมิติระยะและจังหวะสอง ขณะที่ก้องมีชัยมีแรงปะทะและเครื่องยนต์ปลายยกที่น่าสะพรึง เรตเปิดชี้ว่าตลาดเชื่อในโอกาสจบไวและมีนับมีน็อก ด้วยเหตุนี้บทสรุปของบทความวิเคราะห์ครั้งนี้คือ **คู่นี้มีโอกาส “ไม่ครบยก” สูง** และเป็นไฟต์ที่แฟนมวยพลาดไม่ได้ทั้งความมันและคุณภาพทางเชิงมวยของสองดาวรุ่งต่างสไตล์
กล่องฟันธง (Callout)
ฟันธง: ไทยแลนด์ ส.รุ่งศักดิ์ vs ก้องมีชัย ว.วันนิมิตร มีแนวโน้ม “ไม่ครบยกแน่นอน” จากอาวุธหนักและสไตล์บู๊ของทั้งสองฝั่ง หากต้องเลือกแนวทางเกม ไทยแลนด์ควรคุมระยะและสวนศอกให้คม ส่วนก้องมีชัยต้องบี้วงในและบั่นทอนลมหายใจตั้งแต่ต้นยก เพื่อปิดจุดแข็งของอีกฝ่ายให้เร็วที่สุด
FAQ – คำถามที่พบบ่อย
ถาม: คู่นี้ชกกี่โมง? ตอบ: 18:00 น. ที่เวทีราชดำเนิน พร้อมถ่ายทอดสดทางช่อง ททบ.5 กรุณาติดตามคิวถ่ายทอดและความเคลื่อนไหวก่อนชกอีกครั้งเพื่อความชัดเจนของช่วงเวลา
ถาม: พิกัดเท่าไรและมีเงื่อนไขน้ำหนักหรือไม่? ตอบ: พิกัด 116 ปอนด์ เท่ากันทั้งสองฝ่าย โดยทั้งคู่ชั่งได้ตามที่กำหนดและพร้อมขึ้นทำการชก ซึ่งทำให้เกมเชิงสรีระและพละกำลังอยู่ในระดับที่สูสีและน่าจับตาอย่างยิ่ง
ถาม: เคยพบกันมาก่อนหรือไม่? ตอบ: ยังไม่เคยพบกันมาก่อน ทำให้การอ่านเกมต้องอาศัยฟอร์มหลังและสไตล์เป็นหลัก ผู้ชนะจึงน่าจะมาจากผู้ที่เตรียมแท็คติกมารับมือกับอีกฝ่ายได้แม่นยำและคุมอารมณ์ในจังหวะคับขันได้ดีกว่า
ตารางสรุปมวยวันนี้
| หัวข้อ | ค่า/รายละเอียด |
|---|---|
| คู่ชก | ไทยแลนด์ ส.รุ่งศักดิ์ vs ก้องมีชัย ว.วันนิมิตร |
| พิกัด | 116 ปอนด์ |
| เวที | ราชดำเนิน |
| เวลาแข่งขัน | 18:00 น. |
| ถ่ายทอดสด | ช่อง ททบ.5 |
| เรตเปิด | ครบยกต่อ 2/1 |
| โทนไฟต์ที่คาด | บู๊เดือด มีนับ–มีน็อก โอกาสจบไม่ครบยกสูง |
สรุปภาพรวมสำหรับผู้อ่านสายเดิมพันอย่างรับผิดชอบ
แม้บทวิเคราะห์นี้ชี้ไปทางโอกาส “ไม่ครบยก” จากพลังอาวุธและสไตล์ชนหนักของทั้งสอง แต่การเดิมพันควรกระทำอย่างมีวินัยและรับผิดชอบเสมอ ปัจจัยยิบย่อยอย่างการชั่งน้ำหนักในวันจริง อาการเจ็บเล็กน้อย หรือสภาพแวดล้อมของเวทีสามารถส่งผลต่อรูปเกมได้ การติดตามข้อมูลล่าสุดก่อนชกและกำหนดงบประมาณส่วนตัวที่ชัดเจนคือหัวใจสำคัญ เพื่อให้การรับชมศึกไทยแลนด์ ส.รุ่งศักดิ์ vs ก้องมีชัย บนเวทีราชดำเนินคืนนี้เต็มไปด้วยความสนุก ความรู้เชิงมวย และประสบการณ์ที่น่าจดจำ

