โปรแกรมมวย ศึกดาวรุ่งเมืองปทุม 27 ต.ค. | ฟอร์มจัดเต็ม 10 คู่ พร้อมบทวิเคราะห์ ศึกดาวรุ่งเมืองปทุมกลับมาเติมความคึกคักให้วงการมวยไทยในค่ำคืนวันจันทร์ที่ 27 ตุลาคม 2568 ราย วิเคราะห์ฟอร์มและแนวโน้มรายคู่ การนี้คัดสรรนักชกรุ่นเยาว์และดาวรุ่งมากพรสวรรค์มาเจอกันครบทั้ง 10 คู่ โดยเน้นการประกบคู่ที่สมดุลตามรุ่นน้ำหนักจริง เพื่อเปิดพื้นที่ให้สไตล์การชกที่หลากหลายได้ฉายแสง ทั้งจังหวะ ความคม ความเร็ว และแรงปะทะที่แฟนมวยชื่นชอบ พร้อมตารางประกบคู่ครบถ้วนและวิเคราะห์ฟอร์มรายคู่แบบเน้นอ่านง่ายแต่ลงลึกในองค์ประกอบที่สร้างคะแนนในสายตากรรมการ เช่น การคุมระยะ การ์ด เกมวงนอก–วงใน และรายละเอียดการปิดยกที่มักเป็นตัวชี้ขาดผลการแข่งขันในไฟต์ที่สูสีตลอดทั้งสามยก

ภาพรวมไฟต์การ์ดของค่ำคืนนี้เน้นการวัดศักยภาพจริงของนักชกดาวรุ่งจากค่ายดังหลายสำนัก โดยเริ่มจากพิกัดเล็กที่เน้นความเร็วและการชิงจังหวะ ก่อนค่อยไต่ไปยังพิกัดกลางที่ต้องใช้แรงปะทะและความนิ่งในการปิดยกให้ชัดเจน ข้อมูลพิกัดและหมายเหตุเรื่อง “มวยแทน” ถูกระบุไว้ในตารางเพื่อให้แฟนมวยประเมินทิศทางเกมได้รอบด้าน เพราะปัจจัยเหล่านี้มักส่งผลต่อสไตล์การวางหมาก ทั้งการยืนการ์ด การคุมพื้นที่กลางเวที และการตั้งอาวุธชุดแรกที่สร้างภาพคะแนนตั้งแต่ต้นยกอย่างมีนัยสำคัญ

คู่ที่ 1 (31 กก.) — ทรัพย์ศิริ พี.เค.แสนชัยมวยไทยยิม vs เพชรแทนไท ผ่องอำไพ (ศิษย์บุญลือ)

ข้อมูลประกอบการวิเคราะห์: คู่ที่ 1
มุม นักชก ค่าย/ฉายา พิกัด (กก.) จุดเด่น ประเด็นจับตา
แดง ทรัพย์ศิริ พี.เค.แสนชัยมวยไทยยิม 31 สปีดมือไว เข้าถึงก่อนด้วยแย็บ–ตรง ต้องคุมการ์ดหลังปล่อยหมัดชุด
น้ำเงิน เพชรแทนไท ผ่องอำไพ (ศิษย์บุญลือ) 31 จังหวะตอบโต้ดี ตั้งเตะหยุดเกมได้ ต้องไม่ถอยเป็นเส้นตรงเมื่อถูกไล่บี้

คู่นี้เป็นบททดสอบการชิงพื้นที่และการคุมจังหวะในพิกัดเล็กที่ความเร็วคือกุญแจหลัก ทรัพย์ศิริมีมือที่จัดจ้านและขยันเปิดเกม หากเดินเข้าอย่างมีวินัยพร้อมแย็บนำคุมเลนกลางเวทีจะสร้างภาพคะแนนได้รวดเร็ว ขณะที่เพชรแทนไทเด่นที่การอ่านทางและสวนกลับ ควรรักษาระยะให้คู่ต่อสู้หลุดผิดจังหวะแล้วตอบด้วยเตะตัดหรือหมัดตรงเพื่อหยุดโมเมนตัม ประเด็นชี้ขาดอยู่ที่ใครจะรักษาการ์ดและสมดุลหลังออกอาวุธได้ดีกว่า เพราะอาการเสียทรงแม้เล็กน้อยในพิกัดนี้มักถูกกรรมการมองเห็นชัดเจนและส่งผลต่อคะแนนปลายยกอย่างมีนัยสำคัญ

คู่ที่ 2 (46 กก.) — เพชรพลับพลา ศิษย์หลวงพี่น้ำฝน vs อเล็กซ์ ริสกี้อาลีบาบา

ข้อมูลประกอบการวิเคราะห์: คู่ที่ 2
มุม นักชก ค่าย/ฉายา พิกัด (กก.) จุดเด่น ประเด็นจับตา
แดง เพชรพลับพลา ศิษย์หลวงพี่น้ำฝน 46 วางแข้งนำแม่น คุมจังหวะกลางดี อย่าแลกนานจนการ์ดตกท้ายชุด
น้ำเงิน อเล็กซ์ ริสกี้อาลีบาบา 46 วูบวาบ เข้า–ออกไว มีศอกจังหวะสอง ต้องไม่หลุดมุมให้โดนกดเชือก

ไฟต์นี้มีเสน่ห์ตรงการปะทะของความนิ่งกับความวูบวาบ เพชรพลับพลาชอบคุมเกมจากระยะกลางด้วยแข้งซ้าย–ขวานำและหมัดตรงที่รักษารูปทรงได้ดี หากคุมใจให้นิ่งและทยอยสะสมงานเป็นช่วงจะได้ภาพคะแนนชัด ส่วนอเล็กซ์เน้นสปีดเข้า–ออกและเกมสองที่มีศอกซ้อนเป็นอาวุธลับ จังหวะเปลี่ยนเลนหลังกดแย็บแล้วฉีกมุมซ้ายมีโอกาสทำให้ฝ่ายแดงเสียจังหวะ อย่างไรก็ดีหัวใจของชัยชนะคือการคืนการ์ดสม่ำเสมอและการปิดยกให้คม เพราะในรุ่นนี้การออกอาวุธสุดท้ายก่อนระฆังจะช่วยขโมยสายตากรรมการได้มากเมื่อเกมโดยรวมสูสี

คู่ที่ 3 (52 กก.) — เพชรขวัญตา จ.อภิชาติมวยไทย vs เพชรยิ่งลักษณ์ ศิษย์หลวงพี่น้ำฝน (อั๋นสุขุมวิท)

ข้อมูลประกอบการวิเคราะห์: คู่ที่ 3
มุม นักชก ค่าย/ฉายา พิกัด (กก.) จุดเด่น ประเด็นจับตา
แดง เพชรขวัญตา จ.อภิชาติมวยไทย 52 ฝีมือจัด ชิงจังหวะดี มีศอกเฉียง ต้องรักษาระยะไม่ให้ถูกล็อก
น้ำเงิน เพชรยิ่งลักษณ์ ศิษย์หลวงพี่น้ำฝน (อั๋นสุขุมวิท) 52 วงในเหนียว เข่าค้ำแรง ทนลูกชน อย่าปล่อยให้เกมลอยน้ำขาดอิมแพค

การเผชิญหน้าของเพชรขวัญตากับเพชรยิ่งลักษณ์คือภาพคลาสสิกของเชิงฝีมือวงนอกปะทะวงในเหนียวแน่น แดงควรเน้นแข้งหน้า–หลังกับหมัดหนึ่ง–สองตัดหน้าเพื่อหยุดริธึ่มของน้ำเงินไม่ให้ไล่ประชิดง่าย ๆ เมื่อมีโอกาสให้วางศอกเฉียงในจังหวะสวนเพื่อสะสมงาน ส่วนฝั่งน้ำเงินต้องเดินติดตัว บีบพื้นที่ให้คู่ต่อสู้หนีเชือกยากและใช้เข่าค้ำต่อเนื่องสร้างอิมแพคทางสายตา หากน้ำเงินทำให้ภาพเกมเป็นวงในมากกว่าวงนอก คะแนนจะเทไปทางตน แต่หากแดงรักษาความนิ่งและอ่านทางได้แม่นพร้อมปิดยกด้วยอาวุธคม เกมอาจกลับมาสูสีทันที

คู่ที่ 4 (24.5/27 กก.) — เพชรโชกุน เกียรติจำรูญ vs วันเฮง ก.กลมเกลียว (ช.แก้ววิเศษ)

ข้อมูลประกอบการวิเคราะห์: คู่ที่ 4
มุม นักชก ค่าย/ฉายา พิกัด (กก.) จุดเด่น ประเด็นจับตา
แดง เพชรโชกุน เกียรติจำรูญ (โชกุน, เขียงเนื้อราชันย์) 24.5 ไหลลื่น น้ำหนักเบา ฉีกมุมไว ต้องประหยัดแรงเมื่อถูกกดแลก
น้ำเงิน วันเฮง ก.กลมเกลียว (ช.แก้ววิเศษ) 27 มวลแน่นกว่า บดวงในได้ดี อย่าตามมุมจนเสียจังหวะปล่อยชุด

ความต่างพิกัดในคู่นี้ทำให้มิติเกมน่าสนใจอย่างยิ่ง แดงเบากว่าชัด จึงได้เปรียบด้านความคล่องตัวและจังหวะออก–เข้า แต่ต้องบริหารแรงและไม่ยืนแลกนาน ขณะที่น้ำเงินมวลแน่นกว่า เหมาะแก่การเดินกดให้เกมอยู่ชิดเชือกแล้วสร้างงานจากเข่าและหมัดสั้นเพื่อให้ภาพคะแนนเด่น คีย์เวิร์ดของไฟต์คือการตัดมุมและการคืนการ์ด หากแดงฉีกออกด้านข้างได้ต่อเนื่องพร้อมตั้งเตะหยุดเกมจะทำให้คู่ต่อสู้เสียจังหวะ แต่ถ้าน้ำเงินปิดทางหนีและกดเกมวงในได้สม่ำเสมอ โอกาสชูมือจะอยู่ที่อิมแพคและความต่อเนื่องมากกว่าจำนวนครั้งที่ออกอาวุธ

คู่ที่ 5 (27 กก.) — ขวัญเงิน ส.มนต์พิชิต (ส.วิเศษทรัพย์) vs ขวัญสุพรรณ ศิษย์อาจารย์ต่าย (เพชรสุพรรณ ศิษย์ครูเชาว์, ศิษย์วัดสะแก)

ข้อมูลประกอบการวิเคราะห์: คู่ที่ 5
มุม นักชก ค่าย/ฉายา พิกัด (กก.) จุดเด่น ประเด็นจับตา
แดง ขวัญเงิน ส.มนต์พิชิต (ส.วิเศษทรัพย์) 27 หมัดหนึ่ง–สองคม จังหวะสวนดี อย่าหลงตามเกมแลกในมุมอับ
น้ำเงิน ขวัญสุพรรณ ศิษย์อาจารย์ต่าย (เพชรสุพรรณ ศิษย์ครูเชาว์, ศิษย์วัดสะแก) 27 แข้งหนัก เดินบี้มีวินัย ต้องกันศอกสวนเมื่อเข้าติดตัว

เป็นคู่ที่แฟนมวยคาดหวังความเข้มข้นกลางรายการ ขวัญเงินเด่นจังหวะสวนด้วยหมัดตรงและการเปลี่ยนเลนหลังแย็บ หากคุมเวทีจากจุดกึ่งกลางและไม่ถูกบีบเข้ามุมจะรักษารูปเกมได้ดี ส่วนขวัญสุพรรณเดินบี้มีแรงและแข้งหนัก หากเข้าได้ใกล้และใช้ลูกประคองก่อนจบด้วยเข่าหรือหมัดสั้นจะสร้างอิมแพคชัดเจน จุดตัดสินคือการคุมระยะสอง–สามจังหวะและการปิดยก หากฝ่ายใดปิดยกด้วยอาวุธคมชัดหนึ่งครั้งพร้อมยืนระยะเหนือกว่า คะแนนมีแนวโน้มจะเทเข้าฝั่งนั้นทันทีในสายตากรรมการ

ตารางมวยไทยครบทุกคู่ พร้อมลิงก์ถ่ายทอดสดวันนี้! รวมทุกศึก ทุกสังเวียน ดูสดได้ในที่เดียว

คู่ที่ 6 (35 กก.) — ปลาปิรินย่า (มวยแทน สามารถ สบายสบายคาราโอเกะ) vs สายฟ้า สวนอาหารปีกไม้

ข้อมูลประกอบการวิเคราะห์: คู่ที่ 6
มุม นักชก ค่าย/ฉายา พิกัด (กก.) จุดเด่น ประเด็นจับตา
แดง ปลาปิรินย่า มวยแทน (สามารถ สบายสบายคาราโอเกะ) 35 ใจเกินร้อย เร่งเครื่องต้นดี ความคมอาจดรอปหากยืดเยื้อ
น้ำเงิน สายฟ้า สวนอาหารปีกไม้ 35 ตั้งเกมเป็นระบบ มีวางแข้งแก้เพรส อย่าให้ถูกเร่งจนเสียทรง

การมี “มวยแทน” อย่างปลาปิรินย่าทำให้รูปเกมคาดเดายากในรายละเอียดเชิงแผน แต่ข้อดีคือแรงใจและการเดินเร็วตั้งแต่ต้น สายฟ้าจำเป็นต้องนิ่งและไม่ตกใจเมื่อเจอการเร่งเกมต้นยก ควรใช้แข้งตั้งรับบั่นทอนแล้วค่อยเพิ่มจังหวะสองในยกกลาง หากปลาปิรินย่าคุมความเร็วต่อเนื่องพร้อมลดจังหวะว่างหลังปล่อยชุด จะทำให้โอกาสทำคะแนนเพิ่มขึ้น ส่วนสายฟ้าต้องพยายามสร้างภาพความเป็นระเบียบและความคมในช่วงท้ายยกเพื่อดึงคะแนนกลับเมื่อเกมเริ่มนิ่ง

คู่ที่ 7 (42 กก.) — เพชรบุญชู ส.พวงทอง (อภิเดช ส.พวงทอง) vs พิชิตดาว ชานันท์มวยไทย

ข้อมูลประกอบการวิเคราะห์: คู่ที่ 7
มุม นักชก ค่าย/ฉายา พิกัด (กก.) จุดเด่น ประเด็นจับตา
แดง เพชรบุญชู ส.พวงทอง (อภิเดช ส.พวงทอง) 42 วางแผนดี มีลูกศอกสั้น อย่าชะล่าใจช่วงเปลี่ยนยก
น้ำเงิน พิชิตดาว ชานันท์มวยไทย 42 กดดันเป็นคลื่น งานต่อเนื่อง การ์ดต้องแน่นตอนโดนสวน

เพชรบุญชูขึ้นชื่อเรื่องการวางเกมเป็นขั้นตอนชัดเจน หากควบคุมริธึ่มให้คู่ต่อสู้เล่นตามเกมจะมีโอกาสสะสมคะแนนเร็ว ขณะที่พิชิตดาวเด่นตรงแรงต่อเนื่องและการเดินบดแบบไม่ให้พัก หากทำให้เกมเป็นการแลกอย่างสม่ำเสมอจะสร้างความล้าและเปิดโอกาสทำงานหนักท้ายยก สิ่งที่ต้องระวังคือช่วงสลับยกที่ความเข้มข้นหลุด หากใครลดสมาธิจะถูกอีกฝ่ายฉวยจังหวะสุดท้ายก่อนระฆังซึ่งมักส่งผลต่อความรู้สึกของกรรมการมากเป็นพิเศษในไฟต์ที่คะแนนไล่กันติด ๆ

คู่ที่ 8 (46 กก.) — เพชรตะวัน แบงค์เมืองนนท์ (ศักดิ์วารุณ, ศิษย์ป๋าโด๋, ส.บุญมาก) vs ศิริมงคล กิวกิวเต้BBQ (รถเกี่ยวลุงจักร) — มวยแทน มังกรหยก ทาวน์อินทาวน์ยิม

ข้อมูลประกอบการวิเคราะห์: คู่ที่ 8
มุม นักชก ค่าย/ฉายา พิกัด (กก.) จุดเด่น ประเด็นจับตา
แดง เพชรตะวัน แบงค์เมืองนนท์ (ศักดิ์วารุณ/ศิษย์ป๋าโด๋/ส.บุญมาก) 46 ครบเครื่อง วางหมัดสวย อย่าหลงเกมจนเปิดการ์ดข้าง
น้ำเงิน ศิริมงคล กิวกิวเต้BBQ (รถเกี่ยวลุงจักร) 46 ความสดจากการเป็นมวยแทน แรงฮึดสูง ประสบการณ์ยืนยาวอาจเป็นรอง

แม้ศิริมงคลจะเป็นมวยแทน แต่ความสดและแรงฮึดมักสร้างสีสันได้เสมอ เพชรตะวันมีข้อได้เปรียบด้านความครบเครื่องและความเป็นระบบ หากคุมจังหวะให้คู่ต่อสู้ต้องไล่ตามจะเปิดช่องให้ลงโทษด้วยหมัด–แข้งอย่างมีชั้นเชิง ด้านศิริมงคลจำเป็นต้องเร่งสร้างงานเร็วเพื่อไม่ให้เสียทรงตั้งแต่แรก และต้องคุมการ์ดให้เหนียวเมื่อต้องแลกระยะกลาง คีย์สำคัญอยู่ที่การปิดยกและความต่อเนื่องของการโจมตี หากน้ำเงินสร้างภาพแรงกดดันต่อเนื่องอาจทำให้เกมพลิกยกท้ายได้เช่นกัน

คู่ที่ 9 (51 กก.) — เพชรเมืองมอญ กิวกิวเต้บีบีคิวยิมส์ (ยุทธการ รถเกี่ยวลุงจั่น) vs สะแกขาว ศิษย์อาจารย์ต่าย

ข้อมูลประกอบการวิเคราะห์: คู่ที่ 9
มุม นักชก ค่าย/ฉายา พิกัด (กก.) จุดเด่น ประเด็นจับตา
แดง เพชรเมืองมอญ กิวกิวเต้บีบีคิวยิมส์ (ยุทธการ รถเกี่ยวลุงจั่น) 51 แข็งแกร่ง ดันเกมไม่หยุด อย่าปล่อยว่างช่วงถอยรีเซ็ต
น้ำเงิน สะแกขาว ศิษย์อาจารย์ต่าย 51 คมแม่น เกมรับดี สวนมีประสิทธิภาพ ระวังโดนบดจนเสียรูปทรง

เพชรเมืองมอญเป็นประเภทเดินชนยืนระยะได้ดี หากรักษาความต่อเนื่องของแรงกดดันและล็อกพื้นที่ให้คู่ต่อสู้ฉีกมุมยาก จะสะสมงานจนภาพคะแนนชัดขึ้นเรื่อย ๆ ส่วนสะแกขาวต้องใช้ความคมและความแม่นยำในการสวนกลับเพื่อบั่นทอนการบุกของแดง การวางแผนรีเซ็ตจังหวะโดยไม่ถอยเป็นเส้นตรงคือหัวใจ เพราะหากถอยตรงจะถูกไล่คุมเชือกง่ายและเสียโอกาสโต้กลับ การช่วงชิงโมเมนตัมในช่วงท้ายยกสองและสามจะเป็นตัวตัดสินสำคัญของไฟต์นี้

คู่ที่ 10 (คู่เอก) (55/56 กก.) — เพชรแก่งคอย เกียรติจำรูญ vs พลังสิงห์ สิงห์คลองสี่ (โยธินเล็ก ศิษย์หลวงพ่อธรรมโชติ) — มวยแทน สามเค แสงทองค้าแก๊ส

ข้อมูลประกอบการวิเคราะห์: คู่ที่ 10 (คู่เอก)
มุม นักชก ค่าย/ฉายา พิกัด (กก.) จุดเด่น ประเด็นจับตา
แดง เพชรแก่งคอย เกียรติจำรูญ 55 ประสบการณ์คู่ยักษ์ จังหวะสองแม่น คุมเส้นกลางเวทีให้ได้ตั้งแต่ต้น
น้ำเงิน พลังสิงห์ สิงห์คลองสี่ (โยธินเล็ก ศิษย์หลวงพ่อธรรมโชติ) 56 พลังปะทะดี ฮึดปลายยก ต้องระวังการสวนศอกเมื่อบี้ติดตัว

คู่เอกวัดกันระหว่างประสบการณ์และความคมของเพชรแก่งคอยกับพลังและความสดของพลังสิงห์ที่ขึ้นแทนแบบมวยแทน การชิงตำแหน่งกลางเวทีสำคัญมาก เพราะผู้ครองพื้นที่ได้มักเป็นฝ่ายกำหนดระยะและริธึ่มของการออกอาวุธ เพชรแก่งคอยควรวางหมากแบบเน้นความคมในจังหวะสองและเลือกแลกในจุดที่ตัวเองได้เปรียบ ส่วนพลังสิงห์ต้องเดินบดให้ต่อเนื่องและไม่ปล่อยให้เกมหลุดมือ หากบีบให้การต่อสู้ย้ายไปอยู่ใกล้เชือกและใช้เข่าค้ำประคองก่อนจบด้วยหมัดสั้น จะสร้างอิมแพคทางสายตาได้ชัดเจน การปิดยกท้ายที่คมกริบอาจเป็นช็อตชี้ขาดในไฟต์ที่คุณภาพสูงและสูสีตลอดสามยก