ศึกฟุตบอลโลก 2026 รอบคัดเลือก โซนยุโรป กลุ่ม อี คู่ที่น่าสนใจที่สุดหนึ่งในโปรแกรมคือเกมที่แฟนบอลตั้งตารออย่าง จอร์เจีย vs สเปน ซึ่งนอกจากจะมีความสำคัญต่อเส้นทางลุ้นตั๋วไปเล่นรอบสุดท้ายแล้ว ยังเป็นการดวลกันระหว่างทีมที่เน้นพลังหนุ่มและความดุดันกับทีมยักษ์ใหญ่ที่เพิ่งคว้าแชมป์ทวีปยุโรปมาแบบสดๆ ร้อนๆ ทำให้บรรยากาศก่อนเกมเต็มไปด้วยความคาดหวัง ทั้งในมุมของแฟนเจ้าบ้านที่หวังล้มยักษ์ และแฟนกระทิงดุที่อยากเห็นทีมรักเข้าใกล้การันตีการผ่านเข้ารอบให้มากที่สุด
การพบกันครั้งนี้ของ จอร์เจีย vs สเปน จะลงเตะกันในช่วงดึกของบ้านเรา ซึ่งแน่นอนว่าคอบอลที่ชื่นชอบการติดตามเกมระดับชาติไม่ควรพลาดอย่างยิ่ง เพราะนอกจากชื่อชั้นของสเปนที่มาพร้อมสไตล์การเล่นเน้นครองบอลและเพรสซิ่งต่อเนื่องแล้ว ทางฝั่งจอร์เจียเองก็เต็มไปด้วยแข้งฝีเท้าดีที่กระจายตัวค้าแข้งในลีกชั้นนำยุโรปหลายคน โดยเฉพาะสตาร์ตัวเก่งอย่าง ควิชา ควารัตสเคเลีย ที่พร้อมจะใช้เวทีนี้พิสูจน์ตัวเองในแผ่นดินเกิดต่อหน้าเสียงเชียร์มหาศาลในสนามเหย้าสุดเดือดของพวกเขา
ข้อมูลการแข่งขัน จอร์เจีย vs สเปน
ก่อนจะไปเจาะลึกแท็กติกและตัวผู้เล่นของทั้งสองทีม มาดูรายละเอียดสำคัญของแมตช์ จอร์เจีย vs สเปน กันก่อน เกมนี้เป็นส่วนหนึ่งของการแข่งขันฟุตบอลโลก 2026 รอบคัดเลือก โซนยุโรป กลุ่ม อี ที่แต่ละคะแนนมีผลอย่างมากต่อการลุ้นอันดับบนตาราง โดยเฉพาะสเปนที่ต้องการชัยชนะเพื่อเข้าใกล้การันตีตั๋ว ส่วนจอร์เจียเล่นในบ้านย่อมหวังเก็บแต้มสำคัญเพื่อรักษาโอกาสลุ้นอันดับดีในกลุ่มเช่นกัน
| รายการ | ข้อมูล |
|---|---|
| คู่แข่งขัน | จอร์เจีย vs สเปน |
| รายการ | ฟุตบอลโลก 2026 รอบคัดเลือก โซนยุโรป กลุ่ม อี |
| วันแข่งขัน | 15 พฤศจิกายน 2568 |
| เวลาแข่งขัน | เวลา 00.00 น. ตามเวลาประเทศไทย |
| สนาม | บอริส ไพต์ชัดเช่ ดินาโม อารีน่า |
สนามบอริส ไพต์ชัดเช่ ดินาโม อารีน่า ถือเป็นรังเหย้าสำคัญของฟุตบอลทีมชาติจอร์เจีย บรรยากาศขึ้นชื่อเรื่องความดุเดือดและเสียงเชียร์แน่นตลอดเกือบเต็มความจุ การที่สเปนต้องบุกมาเยือนในสภาพแวดล้อมเช่นนี้จึงไม่ใช่งานที่ง่ายเลย แม้ชื่อชั้นจะเหนือกว่า แต่ความกดดันจากแฟนบอลเจ้าถิ่นและสภาพแวดล้อมในสนามสามารถสร้างผลกระทบต่อสมาธิและคุณภาพการเล่นได้ไม่น้อย หากประมาทเพียงเล็กน้อยก็มีสิทธิ์หลุดแต้มกลับบ้านมือเปล่าได้เช่นกัน
ความพร้อมทีมชาติจอร์เจีย
ฝั่งเจ้าบ้านอย่างทีมชาติจอร์เจีย ภายใต้การคุมทีมของ วิลลี่ ซาญอล กุนซือชาวฝรั่งเศส ถือเป็นทีมที่พัฒนาขึ้นอย่างต่อเนื่องในช่วงหลายปีหลัง การจัดการทีมที่มีวินัยเกมรับดีขึ้น บวกกับการดันผู้เล่นหน้าใหม่ฝีเท้าจัดเข้ามาผสมกับแกนหลักรุ่นเก๋า ทำให้ภาพรวมของทีมมีสมดุลมากกว่าเดิม อย่างไรก็ตาม เกมนี้พวกเขาต้องเผชิญปัญหาตัวผู้เล่นบาดเจ็บและถอนตัวในบางตำแหน่ง ซึ่งอาจส่งผลต่อความหลากหลายด้านแท็กติกในเกมรุกได้พอสมควร
รายชื่อนักเตะที่หมดสิทธิ์ลงสนามอย่าง โอตาร์ คาคาบัดเช่ และ จอร์จส์ มิเคาตัดเช่ ถือเป็นการขาดหายของตัวเลือกที่น่าสนใจในแนวรุก ทำให้ซาญอลจำเป็นต้องหันไปใช้ บูดู ซิฟซิวัดเช่ และ จอร์จี้ ควิลิตาย่า เป็นตัวเลือกหลักในแดนหน้าเพื่อประสานงานกับ ควิชา ควารัตสเคเลีย สตาร์จากสโมสร เปแอสเช ที่เป็นเหมือนศูนย์กลางเกมรุกของทีม การปรับตัวดังกล่าวแม้จะดูเป็นการเสียเปรียบในเรื่องของขุมกำลัง แต่ก็เปิดโอกาสให้ผู้เล่นบางรายได้พิสูจน์ตัวเองในเกมใหญ่ระดับนี้เช่นกัน
ในตำแหน่งผู้รักษาประตู จอร์จี มามาร์ดาชวิลี่ นายด่านร่างสูงที่โชว์ฟอร์มน่าประทับใจในระดับสโมสรจะยึดมือหนึ่งเช่นเคย โดยมีแนวรับนำโดย กูราม คาเชีย เซ็นเตอร์ฮาล์ฟประสบการณ์สูงจากสโลวาน บราติสลาวา ซึ่งกำลังลุ้นลงสนามรับใช้ทีมชาติเป็นเกมที่ 127 ถือเป็นอีกหนึ่งจุดเก๋าที่ช่วยยกระดับเกมรับของทีมให้แข็งแกร่งและนิ่งขึ้นเมื่อเจอแรงกดดันจากแนวรุกคุณภาพของสเปน
11 ตัวจริงที่คาดว่าจะลงสนามของจอร์เจีย
สำหรับระบบการเล่นหลักของเจ้าบ้านในเกม จอร์เจีย vs สเปน คาดว่าซาญอลจะเลือกใช้แผน 4-3-3 ที่เน้นความรัดกุมในแดนกลางและความรวดเร็วในการเปลี่ยนจากรับเป็นรุก การจัดตัวผู้เล่นที่สมดุลในแต่ละไลน์จะเป็นกุญแจสำคัญในการต้านทานเกมครองบอลของทีมเยือน พร้อมทั้งหาจังหวะสวนกลับเข้าเล่นงานแนวรับกระทิงดุที่ชอบดันสูงขึ้นไปกดดันตั้งแต่แดนหน้า
| ตำแหน่ง | ผู้เล่นตัวจริงที่คาด |
|---|---|
| ผู้รักษาประตู | จอร์จี้ มามาร์ดาชวิลี่ |
| กองหลัง | จอร์จี้ โกโชเลอิชวิลี่, กูราม คาเชีย, ซาบา โกกลิชิดเช่, จอร์จี้ ซิตาอิชวิลี่ |
| กองกลาง | โอตาร์ คิเตอิชวิลี่, อันซอร์ เมควาบิชวิลี่, จอร์จี้ โคโชราชวิลี่ |
| กองหน้า | บูดู ซิฟซิวัดเช่, จอร์จี้ ควิลิตาย่า, ควิชา ควารัตสเคเลีย |
เมื่อมองจากโครงสร้าง 11 ตัวจริงของจอร์เจีย จะเห็นได้ว่าทีมนี้เน้นความกลมกลืนระหว่างผู้เล่นสายเทคนิคในแดนกลางกับตัวรุกที่มีความเร็วและความคล่องตัว โดยเฉพาะการปล่อยให้ ควิชา ควารัตสเคเลีย มีอิสระในการเคลื่อนที่จากริมเส้นเข้ากลางเพื่อสร้างสรรค์โอกาสให้เพื่อนร่วมทีม รวมถึงการสลับมาหลอนแนวรับคู่เซ็นเตอร์ของสเปน แน่นอนว่าการใช้โอกาสยิงไม่กี่ครั้งที่มีให้คุ้มค่าจะเป็นโจทย์สำคัญ หากพวกเขาหวังแบ่งแต้มจากเกมใหญ่ในบ้านให้ได้
ความพร้อมทีมชาติสเปน
ข้ามมาที่ฝั่งทีมเยือนอย่างสเปน แชมป์ยูโร 2024 ภายใต้การคุมทีมของ หลุยส์ เด ลา ฟวนเต้ ซึ่งได้รับเสียงชื่นชมอย่างมากในเรื่องการสร้างสมดุลระหว่างเกมรุกดุดันกับเกมรับที่เหนียวแน่น แม้ในเกมนี้พวกเขาจะมีปัญหาผู้เล่นตัวเก่งบาดเจ็บและถอนตัวหลายราย แต่ด้วยคุณภาพของขุมกำลังโดยรวมที่เต็มไปด้วยแข้งระดับท็อปจากลีกใหญ่ยุโรป ทำให้สเปนยังคงดูเหนือกว่าจอร์เจียในแง่ศักยภาพโดยรวมอย่างชัดเจน
ข่าวร้ายของแฟนกระทิงดุคือการไม่มีชื่อ ลามีน ยามาล ปีกดาวรุ่งเจ้าของความเร็วและเทคนิคแพรวพราวที่ต้องถอนตัวหลังจากเข้ารับการผ่าตัดเล็กบริเวณขาหนีบ รวมถึง โรดรี้ ห้องเครื่องตัวหลัก, เปดรี้ เพลย์เมกเกอร์จอมสร้างสรรค์เกม และ นิโก้ วิลเลียมส์ ปีกความเร็วสูง ต่างยังไม่พร้อมลงสนามทั้งหมด อย่างไรก็ตาม เด ลา ฟวนเต้ แสดงให้เห็นมาแล้วหลายครั้งว่าระบบทีมสำคัญกว่าตัวบุคคล และยังมีตัวแทนคุณภาพสูงรอรับโอกาสอยู่เต็มทีม
ในแนวรุกคาดว่า เฟร์ราน ตอร์เรส จะได้รับมอบหมายบทบาทกองหน้าตัวเป้า หลังจากทำผลงานยิงไปแล้ว 22 ประตูจากการลงเล่นให้ทีมชาติ 51 นัด ซึ่งถือเป็นสถิติที่แสดงให้เห็นถึงความเฉียบคมและสหายที่ไว้ใจได้ในพื้นที่สุดท้าย ขนาบข้างด้วย มิเกล โอยาร์ซาบัล และ อเล็กซ์ บาเอน่า สองตัวรุกริมเส้นที่พร้อมสอดขึ้นมายิงเองหรือเปิดบอลให้เพื่อนร่วมแนวรุก โดยมีแผงมิดฟิลด์คุณภาพอย่าง มิเกล เมริโน่, มาร์ติน ซูบีเมนดี้ และ ฟาเบียน รุยซ์ คอยคุมจังหวะเกมและเชื่อมต่อระหว่างแนวรับกับแนวรุก
11 ตัวจริงที่คาดว่าจะลงสนามของสเปน
โครงสร้างทีมของสเปนในเกม จอร์เจีย vs สเปน คาดว่าจะยังยึดรูปแบบการเล่น 4-3-3 ตามสไตล์ถนัดของ เด ลา ฟวนเต้ ที่ต้องการให้ทีมสามารถครองบอลในแดนคู่แข่งได้มากที่สุด พร้อมทั้งใช้การเพรสซิ่งเก็บบอลกลับคืนให้เร็วที่สุดเมื่อเสียบอล แบ็กทั้งสองฝั่งมีบทบาทเติมเกมรุกอย่างต่อเนื่อง ขณะที่เซ็นเตอร์แบ็กต้องอ่านเกมและออกบอลจากแดนหลังอย่างแม่นยำเพื่อลำเลียงบอลเข้าสู่แดนกลางโดยไม่เสียจังหวะ
| ตำแหน่ง | ผู้เล่นตัวจริงที่คาด |
|---|---|
| ผู้รักษาประตู | อูไน ซิม่อน |
| กองหลัง | เปโดร ปอร์โร่, โรแบ็ง เลอ นอร์กม็องด์, เปา กูบาร์ซี่, มาร์ก กูกูเรย่า |
| กองกลาง | มิเกล เมริโน่, มาร์ติน ซูบีเมนดี้, ฟาเบียน รุยซ์ |
| กองหน้า | มิเกล โอยาร์ซาบัล, เฟร์ราน ตอร์เรส, อเล็กซ์ บาเอน่า |
เมื่อมองภาพรวมโครงสร้าง 11 ตัวจริงของสเปน จะเห็นได้ว่าทีมยังคงอัดแน่นไปด้วยผู้เล่นที่คุ้นชินกับเกมระดับสูงและทัวร์นาเมนต์ใหญ่ การประสานงานระหว่างแผงกลางที่เน้นการผ่านบอลแม่นยำกับแนวรุกที่สลับตำแหน่งได้ยืดหยุ่น ทำให้พวกเขายังดูเหนือกว่าเจ้าบ้านอย่างชัดเจน จุดที่ต้องระวังคือการดันไลน์เกมรับค่อนข้างสูง หากจังหวะยืนตำแหน่งหลุดหรือโดนสวนเร็วจากจอร์เจีย ก็อาจโดนฉกฉวยโอกาสยิงสวนกลับได้เช่นกัน
ฟอร์มการเล่นล่าสุดและสถิติสำคัญ
การวิเคราะห์เกม จอร์เจีย vs สเปน ให้รอบด้าน นอกจากดูจากชื่อชั้นและขุมกำลังปัจจุบันแล้ว การพิจารณาฟอร์มการเล่นในช่วงหลังและสถิติต่างๆ ก็เป็นปัจจัยที่สำคัญมาก ฟอร์ม 5 นัดหลังสุดช่วยให้เห็นภาพว่าทีมมีเสถียรภาพมากน้อยเพียงใด มีปัญหาในส่วนไหน หรือกำลังอยู่ในช่วงมั่นใจขนาดไหน ขณะเดียวกัน สถิติการพบกันเองก็สามารถบ่งบอกได้ว่าทีมใดมักทำได้ดีกว่าเมื่อต้องเจอกันโดยตรงในระดับทีมชาติ
| ทีม | ฟอร์ม 5 นัดหลังสุด (โดยสรุป) |
|---|---|
| จอร์เจีย | ผลงานทรงตัว ชนะสลับเสมอและแพ้ มีช่วงที่เกมรับทำได้ดี แต่ยังขาดความคมในพื้นที่สุดท้าย |
| สเปน | ฟอร์มร้อนแรง ชนะเป็นส่วนใหญ่ เกมรุกยิงได้ต่อเนื่อง เกมรับเสียประตูน้อย แสดงถึงความลงตัวสูง |
ในภาพของสถิติการพบกันย้อนหลังระหว่าง จอร์เจีย vs สเปน โดยมากแล้วมักเป็นสเปนที่ครองความได้เปรียบ ทั้งในแง่ผลการแข่งขันและจำนวนประตูที่ทำได้ แต่ก็ใช่ว่าจอร์เจียจะไม่มีช่วงเวลาที่ทำได้ดี โดยเฉพาะเมื่อเล่นในบ้านที่บรรยากาศในสนามเต็มไปด้วยแรงกระตุ้นจากกองเชียร์ โอกาสพลิกล็อกหรืออย่างน้อยการยื้อเอาผลเสมอจากทีมใหญ่อย่างสเปนจึงยังมีความเป็นไปได้ หากพวกเขารัดกุมพอและสามารถตอบโต้ได้อย่างมีประสิทธิภาพในจังหวะสวนกลับ
วิเคราะห์แท็กติกและรูปเกมที่คาด
มองไปที่รูปเกมในแมตช์ จอร์เจีย vs สเปน เชื่อว่าทางฝั่งเจ้าบ้านจะเน้นเกมรับเป็นพิเศษ เพราะรู้ดีว่าหากดันสูงหรือเปิดหน้าแลกมากเกินไปอาจโดนกระทิงดุลงโทษอย่างรวดเร็ว การจัดแนวรับให้ยืนกันเป็นบล็อกสองชั้น พร้อมบีบพื้นที่ตรงกลางไม่ให้มิดฟิลด์สเปนได้จ่ายบอลทะลุช่องง่าย น่าจะเป็นโจทย์สำคัญที่ วิลลี่ ซาญอล กำชับลูกทีมอย่างหนัก ขณะเดียวกัน ตัวรุกอย่าง ควิชา ควารัตสเคเลีย ก็จะเป็นหัวใจหลักในการพาบอลขึ้นหน้าและสร้างความปั่นป่วนให้แนวรับคู่แข่ง
ในทางกลับกัน สเปนจะยังคงเน้นการครองบอลตามสไตล์ถนัด เปิดเกมจากแนวรับขึ้นสู่มิดฟิลด์อย่าง ซูบีเมนดี้ และ เมริโน่ ที่เชี่ยวชาญในการพักบอลและเปลี่ยนจังหวะเกม การวิ่งทำทางของแนวรุกฝั่งซ้ายและขวาจะมีบทบาทสำคัญในการฉีกแนวรับจอร์เจียให้เสียทรง เปิดพื้นที่ให้เฟร์ราน ตอร์เรส ได้หลุดเข้าไปชาร์จหรือจบสกอร์ในกรอบเขตโทษ หากพวกเขาสามารถทำประตูขึ้นนำได้เร็ว เกมจะยิ่งไหลไปในทิศทางที่สเปนถนัดที่สุดคือครองจังหวะและบังคับให้คู่แข่งต้องเปิดหน้าสู้มากขึ้น
จุดดวลที่น่าสนใจอย่างยิ่งในเกมนี้คือการปะทะกันระหว่าง ควิชา ควารัตสเคเลีย กับ มาร์ก กูกูเรย่า แบ็กซ้ายสเปน ซึ่งต้องคอยรับมือกับปีกที่มีทั้งความเร็ว การเลี้ยงกินตัว และการเปลี่ยนทิศทางฉับพลัน การที่กูกูเรย่าต้องรับบทหนักตลอดเกมด้านข้าง หากเผลอเสียท่าหรือโดนดึงหลุดจากตำแหน่งบ่อยครั้ง อาจเป็นโอกาสทองให้จอร์เจียใช้จังหวะนี้เจาะเข้าพื้นที่อันตรายและลุ้นสกอร์จากลูกครอสหรือการยิงไกลจากแถวสองได้เช่นกัน
มุมมองแนวโน้มผลการแข่งขันและสกอร์ที่คาด
เมื่อประเมินภาพรวมของเกม จอร์เจีย vs สเปน ทั้งในแง่คุณภาพนักเตะ ประสบการณ์ในทัวร์นาเมนต์ใหญ่ และความหลากหลายด้านแท็กติก ยอมรับว่าชื่อชั้นของสเปนยังดูเหนือกว่าเจ้าบ้านอย่างชัดเจน โอกาสที่กระทิงดุจะบุกมาเก็บสามแต้มสำคัญจึงมีค่อนข้างสูง หากพวกเขาไม่ประมาทและสามารถรักษามาตรฐานการเล่นได้ใกล้เคียงกับช่วงที่ทำผลงานยอดเยี่ยมในศึกยูโรที่ผ่านมา
อย่างไรก็ตาม การเล่นในบ้านของจอร์เจียไม่เคยเป็นเรื่องง่ายสำหรับทีมใดในยุโรป เพราะด้วยสภาพสนาม เสียงเชียร์ และสภาพร่างกายของผู้เล่นเจ้าถิ่นที่รู้จักสภาพแวดล้อมอย่างดี ทำให้พวกเขามักสร้างปัญหาให้ทีมเยือนได้ตลอด การเล่นรับอย่างมีวินัยและอาศัยจังหวะสวนกลับน่ากลัวอาจทำให้แนวรับของสเปนต้องเหนื่อยไม่น้อย และหากมามาร์ดาชวิลี่สามารถโชว์ฟอร์มหนึบในวันของเขา จอร์เจียก็มีลุ้นยื้อเกมให้สูสีได้เช่นกัน
ภาพรวมจึงน่าจะออกมาเป็นเกมที่สเปนครองบอลและสร้างโอกาสได้มากกว่า แต่จอร์เจียจะไม่ปล่อยให้โดนบุกฝ่ายเดียว พวกเขาจะรอฉวยโอกาสจากความผิดพลาดเล็กน้อยในแดนกลางหรือการดันสูงของแบ็กทีมเยือน เพื่อฉกฉวยจังหวะสวนกลับอย่างรวดเร็ว ผลการแข่งขันที่มีความเป็นไปได้สูงคือสเปนบุกมาคว้าชัยได้ในที่สุด แต่ก็อาจจะไม่ใช่ชัยชนะที่ขาดลอยมากนัก หากจอร์เจียสามารถรักษาระเบียบเกมรับได้ดีตลอด 90 นาที
บทสรุปวิเคราะห์บอล จอร์เจีย vs สเปน
สรุปภาพรวมของเกมนี้ จอร์เจีย vs สเปน คือการเจอกันของทีมที่กำลังพัฒนาขึ้นอย่างมีทิศทางกับทีมยักษ์ใหญ่ที่กลับมาคืนความน่าเกรงขามในเวทีทีมชาติอีกครั้ง เจ้าบ้านมีจุดแข็งที่เสียงเชียร์ในสนามและความมุ่งมั่นของผู้เล่นที่ต้องการพิสูจน์ตัวเอง ขณะที่ทีมเยือนมีคุณภาพของตัวผู้เล่นและระบบการเล่นที่ชัดเจนเป็นอาวุธหลัก หากสเปนครองเกมได้ตามที่ต้องการและไม่ปล่อยให้จอร์เจียมีโอกาสโต้กลับแบบจังๆ บ่อยครั้ง โอกาสเก็บสามแต้มกลับบ้านถือว่าสูงมาก
ในมุมมองเชิงสกอร์ที่คาด เกมนี้มีแนวโน้มจะออกมาในรูปแบบที่สเปนยิงประตูได้มากกว่า แต่จอร์เจียอาจมีจังหวะให้แฟนบอลได้ลุ้นจากการสวนกลับหรือจังหวะเซ็ตพีซที่วางแผนมาเป็นอย่างดี ผลที่คาดคือสเปนบุกมาชนะด้วยสกอร์ประมาณ 0-2 หรือ 1-3 โดยมีโอกาสเห็นชื่อของ เฟร์ราน ตอร์เรส หรือ มิเกล โอยาร์ซาบัล มีส่วนร่วมกับการทำประตูอย่างน้อยหนึ่งครั้ง ขณะเดียวกัน ควิชา ควารัตสเคเลีย ก็ยังเป็นชื่อที่แนวรับสเปนประมาทไม่ได้แม้เพียงวินาทีเดียว
คำถามที่พบบ่อยเกี่ยวกับแมตช์ จอร์เจีย vs สเปน
จอร์เจีย vs สเปน แข่งวันไหน เวลาเท่าไหร่?
แมตช์ระหว่าง จอร์เจีย vs สเปน จะลงแข่งขันในคืนวันที่ 15 พฤศจิกายน 2568 ตามเวลาในประเทศไทยจะเริ่มเขี่ยบอลในเวลา 00.00 น. แฟนบอลที่ต้องการติดตามเกมแบบสดๆ จึงควรเตรียมตัวให้พร้อมตั้งแต่ช่วงก่อนเที่ยงคืน ทั้งการเช็กช่องถ่ายทอดสดและจัดตารางเวลาเพื่อไม่พลาดเกมใหญ่ที่อาจมีผลต่อการลุ้นตั๋วไปฟุตบอลโลกของทั้งสองทีมในกลุ่มนี้
สนามบอริส ไพต์ชัดเช่ ดินาโม อารีน่า มีจุดเด่นอย่างไร?
สนามบอริส ไพต์ชัดเช่ ดินาโม อารีน่า ถือเป็นสนามเหย้าหลักของทีมชาติจอร์เจียและสโมสรใหญ่ในประเทศ มีชื่อเสียงด้านบรรยากาศสุดเข้มข้นและเสียงเชียร์ที่ดังกึกก้องตลอดทั้งเกม เมื่อ จอร์เจีย vs สเปน โคจรมาดวลกันที่นี่ จึงเชื่อได้ว่าทีมเยือนจะต้องเผชิญแรงกดดันจากแฟนบอลเจ้าถิ่นอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ ซึ่งอาจมีผลต่อความนิ่งและสมาธิของผู้เล่นสเปนในบางช่วงของเกมได้เหมือนกัน
ใครคือคีย์แมนสำคัญของจอร์เจียในเกมนี้?
คีย์แมนสำคัญของจอร์เจียในเกมนี้คงหนีไม่พ้น ควิชา ควารัตสเคเลีย ปีกตัวเก่งที่กำลังค้าแข้งอยู่กับสโมสรดังในยุโรป ด้วยจุดเด่นด้านการเลี้ยงบอล การดวลหนึ่งต่อหนึ่ง และการจบสกอร์จากทั้งในกรอบและนอกกรอบเขตโทษ ทำให้เขาเป็นความหวังเกมรุกหลักของเจ้าบ้านในแมตช์ จอร์เจีย vs สเปน หากควารัตสเคเลียสามารถใช้ความสามารถเฉพาะตัวสร้างโอกาสให้เพื่อนหรือทำประตูเองได้ จอร์เจียก็มีสิทธิ์สร้างความกดดันให้ทีมเยือนได้ตลอดทั้งเกม
สเปนมีจุดแข็งอะไรที่เหนือกว่าจอร์เจีย?
จุดแข็งหลักของสเปนคือคุณภาพและความลึกของขุมกำลังที่เต็มไปด้วยผู้เล่นระดับท็อปจากสโมสรใหญ่ในยุโรป ตั้งแต่แนวรับจอมอ่านเกมอย่าง เลอ นอร์กม็องด์ และ กูบาร์ซี่ ไปจนถึงมิดฟิลด์ที่คุมจังหวะเกมได้อย่างมีชั้นเชิงอย่าง ซูบีเมนดี้ และ เมริโน่ รวมถึงแนวรุกที่หมุนเวียนสลับกันลงสนามได้โดยแทบไม่ทำให้คุณภาพของทีมลดลง เมื่อมองภาพรวมในเกม จอร์เจีย vs สเปน จึงเห็นได้ชัดว่ากระทิงดุมีทั้งความเก๋าและประสบการณ์ในทัวร์นาเมนต์ใหญ่ติดตัวมามากกว่าเจ้าบ้านอย่างชัดเจน
โอกาสที่จอร์เจียจะมีแต้มจากเกมนี้มากน้อยแค่ไหน?
แม้ชื่อชั้นและศักยภาพโดยรวมของสเปนจะเหนือกว่าชัดเจน แต่การเล่นในบ้านทำให้จอร์เจียมีโอกาสลุ้นแบ่งแต้มได้เสมอ หากพวกเขาสามารถยืนเกมรับได้อย่างมีวินัย ลดความผิดพลาดในพื้นที่สุดท้าย และใช้จังหวะสวนกลับเล่นงานแนวรับสเปนที่ดันสูงอย่างแม่นยำ รวมถึงอาศัยความหนึบของมามาร์ดาชวิลี่ในการป้องกันประตู จอร์เจียก็ยังมีโอกาสยื้อผลเสมอได้ในเกม จอร์เจีย vs สเปน แม้โดยภาพรวมจะยังเป็นรองอยู่พอสมควรก็ตาม

