ศึกใหญ่ประวัติศาสตร์ ONE 173: ซุปเปอร์บอน vs มาซาอากิ ที่สนามอาริอาเกะ อารีนา กรุงโตเกียว ประเทศญี่ปุ่น เมื่อวันอาทิตย์ที่ 16 พฤศจิกายน ได้รูดม่านปิดฉากลงท่ามกลางเสียงเฮสนั่นอัฒจันทร์ และเสียงชื่นชมจากแฟนหมัดมวยทั่วโลก โดยแมตช์นี้ถูกยกให้เป็นหนึ่งในไฟต์ชี้ชะตาของรุ่นเฟเธอร์เวต เพราะเป็นการรวบเข็มขัดหา “ราชันหนึ่งเดียว” ระหว่างแชมป์โลกตัวจริงกับแชมป์โลกเฉพาะกาล และผลลัพธ์ที่ออกมาก็ชัดเจนจนไม่มีใครกล้ากังขา เมื่อ “ซุปเปอร์บอน ซุปเปอร์บอนเทรนนิงแคมป์” โชว์ฟอร์มสุดเนี้ยบ ไล่ปิดจังหวะหวด ปิดประตูแพ้ เอาชนะคะแนนเอกฉันท์เหนือ “มาซาอากิ โนอิริ” ขวัญใจเจ้าถิ่นได้ถึงถิ่นญี่ปุ่น ผงาดขึ้นแท่นเป็นจอมราชัน ONE คิกบ็อกซิ่ง รุ่นเฟเธอร์เวต (145–155 ปอนด์) แต่เพียงผู้เดียวอย่างยิ่งใหญ่

บรรยากาศก่อนศึก : ดีกรีความเดือดตั้งแต่ยังไม่ขึ้นสังเวียน

ก่อนระฆังยกแรกจะดัง บรรยากาศภายในอาริอาเกะ อารีนาก็ร้อนแรงไม่แพ้บนสังเวียน แฟนมวยชาวญี่ปุ่นต่างหลั่งไหลกันเข้ามาเพื่อให้กำลังใจ มาซาอากิ โนอิริ ฮีโร่เจ้าถิ่นที่กำลังจะมีโอกาสรวบเข็มขัดแชมป์โลกตัวจริงมาครอง ขณะที่แฟนมวยชาวไทยทั้งที่เดินทางไปเชียร์ถึงโตเกียว และที่นั่งลุ้นผ่านหน้าจอในบ้านเรา ต่างก็ฝากความหวังไว้กับ ซุปเปอร์บอน แชมป์โลกสายเลือดไทยผู้แบกศักดิ์ศรีคิกบ็อกซิ่งเมืองไทยขึ้นไปพิสูจน์บนเวทีโลก

การเผชิญหน้าครั้งนี้ไม่ใช่แค่ไฟต์ธรรมดา ๆ แต่คือการตัดสินว่าใครกันแน่คือ “เบอร์หนึ่งของโลก” ในรุ่นเฟเธอร์เวต เพราะทั้งสองต่างมีเข็มขัดแชมป์ของตัวเอง หนึ่งคือแชมป์โลกตัวจริง หนึ่งคือแชมป์โลกเฉพาะกาล เมื่อถึงเวลา ทุกสายตาจึงจับจ้องไปที่มุมแดงและมุมน้ำเงินราวกับกำลังรอฉากไคลแม็กซ์ของภาพยนตร์เรื่องใหญ่

ซุปเปอร์บอน เอาชนะคะแนนเอกฉันท์ มาซาอากิ คว้าเข็มขัด ONE เฟเธอร์เวตที่ญี่ปุ่น

ซุปเปอร์บอน vs มาซาอากิ ศึกศักดิ์ศรีที่ไม่มีใครอยากเป็นฝ่ายพลาด

ซุปเปอร์บอน ซุปเปอร์บอนเทรนนิงแคมป์ คือชื่อที่คุ้นหูแฟนมวยชาวไทยและแฟน ONE ทั่วโลก เขาคือหนึ่งในคิกบ็อกเซอร์ชั้นหัวกะทิที่ผ่านการดวลแข้งกับยอดฝีมือมากหน้าหลายตา ทั้งยังเคยสร้างโมเมนต์น็อกเอาต์ที่ถูกพูดถึงไปทั่วโลกมาแล้ว จุดเด่นของซุปเปอร์บอนคือการอ่านเกมที่เฉียบขาด เทคนิคการยืนระยะที่ดีเยี่ยม และลูกเตะลูกต่อยที่แม่นดุจเลเซอร์ เมื่อผสมกับประสบการณ์ระดับโลกแล้ว ทำให้ทุกครั้งที่เขาก้าวขึ้นสังเวียน ผู้ชมต่างคาดหวังผลงานระดับมาสเตอร์คลาส

ในอีกมุมหนึ่ง มาซาอากิ โนอิริ แชมป์โลกเฉพาะกาลก็ไม่ได้ด้อยไปกว่า เขาคือขวัญใจแฟนมวยเจ้าถิ่นที่ขึ้นชื่อเรื่องการเดินหน้าบุกไม่มียั้ง มีอาวุธหมัดและเท้าที่ดุดัน พร้อมจิตใจนักสู้เต็มเปี่ยม สไตล์การชกของเขาคือ “เดินแลก เดินลุย” เน้นกดดันคู่ต่อสู้ตลอดเวลา ทำให้รูปแบบการปะทะระหว่างเขากับซุปเปอร์บอนถูกคาดการณ์ไว้ตั้งแต่ก่อนชกแล้วว่าจะเป็นการดวลกันระหว่าง “จังหวะโต้กลับสุดเฉียบ” ปะทะ “เกมบุกสุดดุดัน”

ซุปเปอร์บอน เอาชนะคะแนนเอกฉันท์ มาซาอากิ คว้าเข็มขัด ONE เฟเธอร์เวตที่ญี่ปุ่น

เริ่มยกแรก : หยั่งเชิงอย่างระมัดระวัง ก่อนพลังอาวุธจะค่อย ๆ เปิดหน้าไพ่

ระฆังยกแรกดังขึ้น ทั้งสองฝ่ายต่างแสดงให้เห็นถึงความเก๋าเกมด้วยการไม่รีบร้อน เปิดเกมด้วยการวนเท้า หาจังหวะใช้จุดเด่นของตัวเองให้ได้มากที่สุด ซุปเปอร์บอนใช้ลูกถีบคุมระยะ พร้อมจิกเตะทำลายจังหวะอีกฝ่าย ขณะที่มาซาอากิเดินไล่บีบพื้นที่พยายามลดช่องว่าง ตัดระยะไม่ให้แชมป์โลกชาวไทยได้ชกในกรอบที่ตัวเองถนัด

แม้ยกแรกจะไม่มีจังหวะหวือหวา หรือลูกบวกหนัก ๆ ให้แฟนมวยเสียวไส้มากนัก แต่ก็สะท้อนให้เห็นว่าทั้งคู่ให้ความสำคัญกับไฟต์นี้มากแค่ไหน ทุกหมัด ทุกเตะ ทุกก้าวเท้า ล้วนเต็มไปด้วยการวางแผนและการคำนวณอย่างละเอียด รอบคอบ เพื่อไม่ให้ผิดพลาดตั้งแต่ต้นเกม

ยกกลางไฟต์ : มาซาอากิเร่งเครื่องบุก แต่ซุปเปอร์บอนอ่านขาด ใช้เกมโต้ตอบอย่างเหนือชั้น

ตั้งแต่ยกสองเป็นต้นไป มาซาอากิ โนอิริ เริ่มเร่งจังหวะอย่างเห็นได้ชัด เขาเดินกดดันซุปเปอร์บอนอย่างต่อเนื่อง พยายามยืนตำแหน่งให้ใกล้พอที่จะระดมอาวุธหมัดและแข้งชุดใหญ่เข้าใส่ หวังใช้เสียงเชียร์จากเจ้าถิ่นเป็นแรงผลักดันในการกดดันแชมป์โลกชาวไทยให้ถอยหนี

ทว่าซุปเปอร์บอนในวันนี้ไม่ได้มาเล่น ๆ เขาแสดงให้เห็นถึงการเตรียมตัวมาดีทั้งในเชิงร่างกายและจิตใจ แชมป์โลกชาวไทยไม่หวั่นไหวต่อเสียงเชียร์กึกก้องของแฟนเจ้าถิ่น กลับยิ่งโฟกัสกับเกมตรงหน้า เขาใช้การเคลื่อนเท้าที่คล่องตัว หลบหลีกมุมอับ จัดระยะให้ตัวเองยืนในตำแหน่งที่ได้เปรียบ และรอจังหวะโต้กลับแบบเฉียบคม

หลายครั้งที่มาซาอากิพยายามยัดหมัดชุด หรือกระหน่ำเตะใส่ ซุปเปอร์บอนสามารถบล็อกได้ทัน หรือไม่ก็ขยับหลบเพียงนิดเดียว ก่อนปล่อยหมัดตรง หรือเตะสวนเข้าเป้าเต็ม ๆ จังหวะพวกนี้เองที่ทำให้คะแนนเริ่มเอนเอียงไปทางมุมแดงอย่างชัดเจน ยิ่งเกมเดินไปเรื่อย ๆ ยิ่งเห็นความนิ่งและความเก๋าของซุปเปอร์บอนที่ไม่ตกใจเมื่อถูกกดดัน

ซุปเปอร์บอน เอาชนะคะแนนเอกฉันท์ มาซาอากิ คว้าเข็มขัด ONE เฟเธอร์เวตที่ญี่ปุ่น

ยกท้าย ๆ : ซุปเปอร์บอนโชว์ความเก๋า คุมเกมอยู่หมัดจนหมดยกที่ห้า

เมื่อเข้าสู่ยกที่สี่และห้า บรรยากาศบนอัฒจันทร์ก็ยิ่งทวีความดุเดือด แฟนมวยต่างรู้ดีว่าใครคุมเกมได้เหนือกว่า แต่ก็ยังลุ้นว่ามาซาอากิจะพลิกเกมด้วยหมัดหรือแข้งหนัก ๆ ได้หรือไม่

มาซาอากิไม่หยุดพยายาม เขายังคงเดินหน้าไล่บี้ หวังสร้างเหตุการณ์พลิกนรกในบ้านตัวเอง ทว่าเวลาที่เหลือกลับถูกซุปเปอร์บอนใช้เป็นพื้นที่โชว์คลาสคิกบ็อกซิ่งระดับโลก แชมป์โลกชาวไทยไม่ถอยหนีแบบหมดรูป แต่ยืนสู้ด้วยสติและจังหวะที่คุมทุกอย่างไว้ในมือ เขาเลือกออกอาวุธทุกครั้งด้วยความมั่นใจ เน้นความแม่นยำมากกว่าปริมาณ ขณะเดียวกันก็เซฟตัวเองไม่ให้โดนหมัดชุดหรือแข้งหนักของคู่ต่อสู้แบบเต็ม ๆ

จังหวะสวนของซุปเปอร์บอนทั้งหมัดและแข้ง กลายเป็นภาพจำในไฟต์นี้ หลายครั้งที่เขาปล่อยหมัดตรงเข้าเป้า หรือสาดแข้งใส่ลำตัวและแขนของมาซาอากิแบบชัดเจน จนแฟนมวยทั้งในสนามและหน้าจอสัมผัสได้ว่าภาพรวมของเกมนั้น แชมป์โลกจากเมืองไทยทำได้เนียนกว่า คมกว่า และครบเครื่องกว่า

เสียงระฆังสุดท้ายกับผลคะแนนเอกฉันท์ : ราชันหนึ่งเดียวของรุ่นเฟเธอร์เวต

เมื่อระฆังหมดยกที่ห้าเสียงดังขึ้น ทั้งสองฝ่ายต่างยืนหอบหายใจ ขณะที่แฟนมวยในสนามลุกขึ้นปรบมือให้ทั้งคู่ที่ทุ่มเททุกหยดพลังลงบนสังเวียน แม้จะยังไม่รู้ผลคะแนน แต่หลายคนก็พอจะเดาได้แล้วว่าเกมนี้น่าจะเอนเอียงไปทางซุปเปอร์บอน

ทันทีที่กรรมการรวมคะแนนและเรียกทั้งสองมายืนกลางเวที บรรยากาศเงียบลงชั่วขณะราวกับทุกคนกำลังหยุดลมหายใจรอฟังผล และแล้วเสียงประกาศก็ดังก้อง…

“ผู้ชนะโดยคะแนนเอกฉันท์… ซุปเปอร์บอน ซุปเปอร์บอนเทรนนิงแคมป์!”

ทันทีที่ชื่อของซุปเปอร์บอนถูกประกาศ เสียงเฮก็ดังกระหึ่มทั้งจากแฟนไทยและแฟนมวยสากลที่ชื่นชมในฝีมืออันเฉียบขาดของเขา ซุปเปอร์บอนชูมือขึ้นอย่างภาคภูมิ พลางรับเข็มขัดแชมป์โลก ONE คิกบ็อกซิ่ง รุ่นเฟเธอร์เวต กลับมาอยู่บนบ่าของตนเองอย่างสมศักดิ์ศรี พร้อมสถานะใหม่ที่ชัดเจนว่า เขาคือ “ราชันหนึ่งเดียวของรุ่นนี้” อย่างแท้จริง

ซุปเปอร์บอน เอาชนะคะแนนเอกฉันท์ มาซาอากิ คว้าเข็มขัด ONE เฟเธอร์เวตที่ญี่ปุ่น

ความหมายของชัยชนะครั้งนี้ ต่อซุปเปอร์บอนและวงการคิกบ็อกซิ่งไทย

ชัยชนะเหนือแชมป์โลกเฉพาะกาลอย่างมาซาอากิ โนอิริไม่ได้เป็นเพียงตัวเลขบนสถิติ แต่มันคือการตอกย้ำว่า นักสู้ไทยยังคงยืนหยัดอยู่แถวหน้าของโลก ในเวทีระดับนานาชาติ ซุปเปอร์บอนแสดงให้เห็นว่าความมุ่งมั่น การฝึกซ้อมอย่างหนัก และการวางแผนเกมการชกอย่างละเอียดสามารถพาเขาไปยืนบนยอดพีระมิดของรุ่นเฟเธอร์เวตได้อย่างสง่างาม

นอกจากนี้ การบุกไปป้องกันแชมป์ได้ถึงญี่ปุ่น ซึ่งเป็นบ้านของคู่ต่อสู้ ยังช่วยยกระดับภาพลักษณ์นักสู้ไทยให้ชัดเจนขึ้นว่า เราไม่ได้เก่งเฉพาะในบ้าน แต่สามารถไปสร้างชื่อเสียงได้ทุกที่บนโลกใบนี้ ไม่ว่าจะเป็นโตเกียว สิงคโปร์ หรือที่ใดบนเวที ONE

ไฮไลต์อีกหนึ่งหน้าประวัติศาสตร์ : นาดากะ คว้าแชมป์โลก ONE มวยไทย รุ่นอะตอมเวต คนแรก

ในค่ำคืนอันยิ่งใหญ่ของศึก ONE 173 ไม่ได้มีเพียงความสำเร็จของซุปเปอร์บอนเท่านั้นที่ถูกบันทึกไว้ในหน้าประวัติศาสตร์ “นาดากะ” ยังกลายเป็นชื่อที่ถูกพูดถึงอย่างกว้างขวาง เมื่อสามารถก้าวขึ้นไปคว้าแชมป์โลก ONE มวยไทย รุ่นอะตอมเวต และได้ชื่อว่าเป็น แชมป์โลกคนแรกในประวัติศาสตร์ของรุ่นนี้

ความสำเร็จของนาดากะสะท้อนให้เห็นว่า ONE กำลังขยายขอบเขตของมวยไทยและคิกบ็อกซิ่งให้กว้างขึ้น เปิดพื้นที่ให้นักสู้หลากหลายรุ่นน้ำหนักได้มีโอกาสแจ้งเกิดบนเวทีโลก และยังช่วยให้แฟนมวยรุ่นใหม่หันมาให้ความสนใจกีฬาต่อสู้สายยืนมากขึ้นอย่างต่อเนื่อง

ซุปเปอร์บอน เอาชนะคะแนนเอกฉันท์ มาซาอากิ คว้าเข็มขัด ONE เฟเธอร์เวตที่ญี่ปุ่น

ผลงานนักสู้ไทยในค่ำคืนแห่งโตเกียว : ภาพรวมที่น่าชื่นใจ

ศึก ONE 173 ที่โตเกียวครั้งนี้ ยังนับเป็นอีกหนึ่งรายการที่แฟนมวยชาวไทยได้ส่งแรงใจเชียร์กันอย่างพร้อมเพรียง ไม่ว่าจะเป็นการลุ้นให้ซุปเปอร์บอนรักษาบัลลังก์ หรือการติดตามผลงานของนักสู้สายเลือดไทยคนอื่น ๆ ที่ขึ้นชกในรายการเดียวกัน แม้แต่ละคนจะเจอคู่ต่อสู้ที่ไม่ธรรมดา แต่ทุกคนต่างแสดงให้เห็นถึงหัวจิตหัวใจนักสู้ การไม่ยอมแพ้ง่าย ๆ และการต่อสู้จนสุดแรง

แม้บางคนอาจไม่ได้คว้าชัยกลับบ้าน แต่ฟอร์มการชกและความมุ่งมั่นที่แสดงออกมาก็ถือเป็นอีกหนึ่งความสำเร็จที่ช่วยยกระดับชื่อเสียงนักมวยไทยบนเวทีโลก และแน่นอนว่าทุกก้าวบนสังเวียน คือประสบการณ์ที่จะถูกนำกลับไปใช้พัฒนาตัวเองให้แข็งแกร่งยิ่งขึ้นในไฟต์ต่อ ๆ ไป

ศึก ONE 173 กับความทรงจำที่ยากจะลืมของแฟนมวยทั่วโลก

เมื่อมองย้อนกลับไปตลอดทั้งรายการ ONE 173 จะเห็นได้ว่านี่คือค่ำคืนที่เต็มไปด้วยเรื่องราวน่าจดจำ ตั้งแต่บรรยากาศก่อนการชก ความตื่นเต้นของแฟนมวย การประกาศรายชื่อนักสู่อย่างเป็นทางการ จนถึงเสียงระฆังยกสุดท้ายของคู่เอกระหว่างซุปเปอร์บอนกับมาซาอากิ ทุกช่วงเวลาล้วนถักทอเป็นภาพจำของแฟนมวยทั่วโลก

สำหรับแฟนชาวไทย นี่คืออีกหนึ่งค่ำคืนที่ทำให้หัวใจพองโตเมื่อได้เห็นนักสู้ไทยก้าวขึ้นไปยืนบนจุดสูงสุดของโลก และยังทำให้ชื่อของ “ซุปเปอร์บอน ซุปเปอร์บอนเทรนนิงแคมป์” ถูกย้ำชัดลงไปอีกครั้งว่า เขาไม่ได้เป็นเพียงแค่แชมป์โลกในตำแหน่ง แต่เป็นแชมป์โลกในสายตาแฟนมวยที่เห็นถึงความทุ่มเท ความมานะ และความเป็นมืออาชีพที่ส่องประกายอยู่บนสังเวียนทุกวินาที

ตารางมวยไทยครบทุกคู่ พร้อมลิงก์ถ่ายทอดสดวันนี้! รวมทุกศึก ทุกสังเวียน ดูสดได้ในที่เดียว

 

ราชันหนึ่งเดียวของรุ่น และก้าวต่อไปที่โลกต้องจับตา

ศึก ONE 173: ซุปเปอร์บอน vs มาซาอากิ ที่อาริอาเกะ อารีนา กรุงโตเกียว ปิดฉากลงด้วยภาพของซุปเปอร์บอนชูเข็มขัดแชมป์โลก ONE คิกบ็อกซิ่ง รุ่นเฟเธอร์เวต ไว้เหนือศีรษะ ท่ามกลางสายตานับไม่ถ้วนที่มองเขาด้วยความชื่นชม นี่ไม่ใช่แค่ชัยชนะหนึ่งไฟต์ แต่คือการยืนยันสถานะของเขาในฐานะ ราชันหนึ่งเดียวของรุ่นเฟเธอร์เวต บนเวที ONE

ในขณะเดียวกัน ค่ำคืนนั้นยังจารึกชื่อของนาดากะในฐานะแชมป์โลก ONE มวยไทย รุ่นอะตอมเวตคนแรก เปิดหน้าใหม่ให้ประวัติศาสตร์มวยไทยและวงการกีฬาต่อสู้ระดับโลก และยังตอกย้ำว่าเวที ONE คือบ้านของนักสู้ตัวจริง ที่พร้อมเปิดโอกาสให้ทุกคนได้ก้าวขึ้นมาพิสูจน์ตัวเอง

สำหรับก้าวต่อไป แฟนมวยทั่วโลกคงตั้งตารอว่าใครจะเป็นผู้ท้าชิงรายต่อไปของซุปเปอร์บอน ใครจะกล้าก้าวขึ้นมาท้าทายราชันเฟเธอร์เวตคนนี้ และเขาจะยังคงสร้างตำนานบทใหม่ให้วงการคิกบ็อกซิ่งไทยและเวที ONE ต่อไปได้อย่างไร แต่สิ่งหนึ่งที่ชัดเจนแล้วจากศึก ONE 173 ก็คือ…

ซุปเปอร์บอน ซุปเปอร์บอนเทรนนิงแคมป์ ได้จารึกชื่อของตัวเองไว้ในฐานะราชันหนึ่งเดียวของรุ่นเฟเธอร์เวต บนแผ่นดินญี่ปุ่นอย่างงดงามและยิ่งใหญ่