ก่อนระฆังดังที่อาเรียเกะ อารีนา โตเกียว ค่ำคืนอันยิ่งใหญ่ของศิลปะการต่อสู้ในศึก ONE 173 กำลังพาแฟนมวยไทยทั่วเอเชียจับตาไปที่ ช็อตน็อค ของ นาดากะ เอวะสปอร์ตยิม นักชกชาวญี่ปุ่นวัย 24 ผู้ไล่ล่าความสำเร็จสูงสุดบนสังเวียนวัน และเตรียมปะทะเดือด “หนุ่มสุรินทร์ ช.เกตุวีณา” เพื่อชิงแชมป์โลก ONE มวยไทย รุ่นอะตอมเวต เส้นปฐมฤกษ์ขององค์กร ท่ามกลางแรงเชียร์เจ้าถิ่นและความคาดหวังจากทั้งสองฟากฝั่งของเอเชียที่พร้อมปะทุในคืนประวัติศาสตร์ครั้งนี้
บริบทศึก ONE 173: ศึกใหญ่ใจกลางโตเกียว กับเดิมพันแชมป์โลกหลายเส้น
ONE 173 จะจัดขึ้นที่อาเรียเกะ อารีนา กรุงโตเกียว ประเทศญี่ปุ่น โดยเป็นรายการซูเปอร์การ์ดที่บรรจุศึกชิงแชมป์โลกหลายคู่ และรวม “ฮีโร่แดนอาทิตย์อุทัย” กับซูเปอร์สตาร์นานาชาติไว้เต็มไฟต์การ์ด นี่คือค่ำคืนที่องค์กรย้ำภาพ “งานใหญ่ที่สุดของปี” และเป็นเวทีเปิดตำนานหน้าใหม่ของรุ่นอะตอมเวตมวยไทย ซึ่งคู่ นาดากะ vs หนุ่มสุรินทร์ ถูกวางให้เป็นหนึ่งในไฮไลต์ที่แฟนมวยไทยห้ามพลาดโดยเด็ดขาด
ปูพรมสู่ “เส้นแรกของโลก”: อะตอมเวตมวยไทยกำเนิดเข็มขัดใหม่
ความพิเศษของไฟต์นี้คือการสถาปนาเข็มขัด “แชมป์โลก ONE มวยไทย รุ่นอะตอมเวต” เส้นแรกของโลก ผู้ชนะระหว่าง นาดากะ โยชินาริ และ หนุ่มสุรินทร์ จะได้จารึกชื่อเป็นเจ้าของตำแหน่งคนแรกทันที เพิ่มแรงขับดันให้ทั้งคู่ต้องโชว์ของเกินร้อยและห้ามพลาดแม้เสี้ยววินาทีเดียวบนสังเวียน 4 ออนซ์ เพราะโอกาสแบบนี้ไม่ได้เกิดขึ้นบ่อย และชื่อของผู้ชนะจะถูกกล่าวขานไปอีกนานในหน้าประวัติศาสตร์ ONE
โพรไฟล์ “นาดากะ เอวะสปอร์ตยิม”: เครื่องจักรน็อคเอาต์จากญี่ปุ่น
นาดากะ โยชินาริ สูงราว 165 เซนติเมตร สังกัด Eiwa Sports Gym เป็นนักชกชาวญี่ปุ่นที่เติบโตบนสังเวียนไทยมาตั้งแต่วัยเด็ก คว้าแชมป์เวทีใหญ่ทั้งราชดำเนิน ลุมพินี รวมถึงบัลลังก์ WMC และ WBC จนถูกยกให้เป็นหนึ่งในสไตรเกอร์ที่ทรงพลังที่สุดของยุค ก่อนเปิดตัวกับ ONE อย่างเป็นทางการในปีนี้ด้วยความคาดหวังสูง และยังคงรักษามาตรฐานฟอร์มร้อนแรงสไตล์ “นักล่า” ที่เดินเข้าชนเพื่อปิดบัญชีอย่างเฉียบคม
คู่ชิงผู้ท้าทาย: “หนุ่มสุรินทร์ ช.เกตุวีณา” ดาวเตะไทยสายบู๊ที่มาพร้อมคำว่า “โนเมอร์ซี”
อีกฟากคือ “หนุ่มสุรินทร์ ช.เกตุวีณา” นักชกไทยวัย 30 ปี สูงประมาณ 162 เซนติเมตร ผลงานบนสังเวียน ONE Friday Fights กำลังเติบโตและน่าจับตา จุดเด่นคือความดุดันตรงไปตรงมา เข้าแลกไม่กลัวเจ็บ พร้อมบันทึกสถิติชนะและน็อคอย่างมีคุณภาพ เป้าหมายในโตเกียวคือการพลิกล็อกโค่นขวัญใจเจ้าถิ่น และสวมมงกุฎราชันอะตอมเวตเป็นคนแรกให้ได้เพื่อพิสูจน์ตัวเองต่อสายตาโลก
ทำไมแฟนมวยต้องย้อนชม ช็อตน็อค ของ นาดากะ เอวะสปอร์ตยิม ก่อนชก
การไล่ดูเทปช็อตเด็ดของนาดากะช่วยให้เห็นทั้งแพตเทิร์นคอมโบและท่าทีในระยะชี้เป็นชี้ตาย เช่น จังหวะเซ็ตด้วยหมัดหนึ่งสองแล้วกดศอกสั้นปิดจ็อบ หรือการก้าวมุมครึ่งสเต็ปเพื่อเปิดช่องเข่าตรงเข้าลำตัว จังหวะเหล่านี้ไม่เพียงสร้างแรงสั่นสะเทือนทางใจให้คู่ต่อสู้ แต่ยังส่งสัญญาณถึงแผนการที่เขาอาจหยิบใช้ในคืนไฟต์กับหนุ่มสุรินทร์อีกด้วย ทำให้การทำการบ้านของแฟนมวยสนุกและมีสาระมากขึ้น
จากเด็กน้อยสู่จ้าวเวที: เส้นทางที่หล่อหลอมเครื่องมือปิดบัญชี
นาดากะเริ่มต้นชกอาชีพตั้งแต่อายุเพียง 14 ปี และใช้เวลาหลายปีไล่เก็บประสบการณ์ในเวทีไทยจนแข็งแกร่ง เขาพัฒนาระบบรุกที่ครบทุกระยะ ตั้งแต่หมัดตรงเร็วจัด ไปจนถึงศอกสั้นเฉียบคมและเข่าซ้ำอย่างมีวินัย การเคลื่อนที่ฉลาดและวินัยการ์ดสูงสร้างฐานให้ “ช็อตน็อค ของ นาดากะ เอวะสปอร์ตยิม” เกิดขึ้นได้ซ้ำๆ สะท้อนการฝึกฝนต่อเนื่องกับทีมงานมืออาชีพของค่ายเอวะสปอร์ตยิม
ฟอร์มก่อนศึก: ความมั่นใจที่สะสมจากชัยชนะต่อเนื่อง
ช่วงก่อนเซ็นสัญญากับ ONE นาดากะกวาดชัยในประเทศญี่ปุ่นและไทยอย่างต่อเนื่อง รวมถึงไฟต์ที่แฟนๆ กล่าวถึงอย่างการน็อคเร็วในรายการใหญ่บนแผ่นดินปลาดิบ จนเกิดกระแสว่าความแหลมคมและวินัยจังหวะสองของเจ้าตัวกำลังอยู่ในจุดสูงสุด การเข้าสู่เวที ONE จึงเปรียบเหมือนการขยับสู่บทพิสูจน์ระดับโลกที่แฟนมวยทั้งภูมิภาคกำลังรอคอย
คู่ต่อกรสไตล์ชนสไตล์: หนุ่มสุรินทร์กับโอกาส “ล็อกคอเสือ” กลางกรุงโตเกียว
ในขณะที่นาดากะโดดเด่นด้านความครบเครื่องและความเร็วระยะต้น หนุ่มสุรินทร์มีจุดเด่นด้านหัวจิตหัวใจและแรงปะทะ เขาไม่ใช่คู่แข่งที่จะถอยหนี และพร้อมเดินกดดันเพื่อทำลายจังหวะคู่ชก ชัยชนะของหนุ่มสุรินทร์จึงมักมาจากการอ่านจังหวะสวนแบบไม่กลัวบาดเจ็บ และหากเขาสามารถทลายแพตเทิร์นของนาดากะได้ตั้งแต่ยกแรก ความตึงเครียดของไฟต์จะพุ่งทะยานทันที
3 “ช็อตน็อค” เอกลักษณ์ของนาดากะที่ต้องดูซ้ำ
ช็อตที่ 1: หมัดหนึ่ง–สองเจาะการ์ดตามด้วยศอกสั้น
นาดากะถนัดตั้งลำด้วยจังหวะหลอกตา ก่อนปล่อยหมัดหนึ่ง–สองที่ฉีกการ์ดให้แตก แล้วพุ่งเข้าระยะประชิดเพื่อปิดจ็อบด้วยศอกสั้น การผสมผสานที่เร็วและแม่นทำให้คู่ต่อสู้ไม่ทันตั้งตัว แม้การ์ดจะยังอยู่แต่ช่องไฟที่ถูกเปิดด้วยหมัดทำให้ศอกทะลุเข้าใบหน้าได้สะอาด เป็นรูปแบบที่เขาหยิบใช้บ่อยในไฟต์ระดับหัวตาราง และสร้าง “ช็อตน็อค ของ นาดากะ เอวะสปอร์ตยิม” จนแฟนมวยจดจำ
ช็อตที่ 2: ก้าวมุมครึ่งสเต็ปแล้วเสียบเข่าตรงลำตัว
อีกแพตเทิร์นคือการขยับเท้าเฉียงหนึ่งก้าวครึ่งเพื่อออกจากแนวหมัด จากนั้นเสียบเข่าตรงเข้ากลางลำตัว ทำให้แรงหายใจคู่ต่อสู้สะดุดและเสียการทรงตัวทันที จุดแข็งของนาดากะคือการอ่านจังหวะน้ำหนักตัวและกำหนดจุดกระทบอย่างมีวินัย เมื่อเข่าตรงเข้าเป้าในจังหวะรับไม่ทัน โอกาสปิดบัญชีด้วยหมัดหรือศอกต่อเนื่องจึงตามมาอย่างเป็นระบบ
ช็อตที่ 3: ดักสวนด้วยศอกกลับในระยะตีสั้น
ศอกกลับเป็นอาวุธเซอร์ไพรส์ที่นาดากะซ่อนในกระเป๋า เขามักวางกับดักด้วยการหน่วงเท้าเล็กน้อยชวนให้คู่ชกเข้าทาง ก่อนตวัดศอกกลับในมุมที่คาดไม่ถึง อาวุธประเภทนี้ต้องใช้วินัยร่างกายและความแม่นยำสูง แต่หากเข้าจุดก็เป็นภาพมุมสโลว์ที่แฟนๆ จำขึ้นใจ และกลายเป็นอีกหนึ่ง “ช็อตน็อค ของ นาดากะ เอวะสปอร์ตยิม” ที่ถูกแชร์ซ้ำบนโซเชียลเสมอ
วิเคราะห์เชิงเทคนิค: เมื่อความเร็วเจอแรงปะทะ
การเผชิญหน้าของทั้งคู่คือสมการ “สปีดและความคม” ของนาดากะ ปะทะ “แรงและความดื้อด้าน” ของหนุ่มสุรินทร์ หากนาดากะคุมจังหวะได้ก่อนด้วยการใช้มุมเท้าและการฉีกการ์ด เขาจะได้ช่วงชิงพื้นที่เล่นงานกลางลำตัวซ้ำๆ แต่หากหนุ่มสุรินทร์ยืนระยะและบีบให้แลกระยะประชิดแบบไม่ถอย ไฟต์จะกลายเป็นสงครามศอก–เข่าที่ใครยืดหยัดได้มากกว่าจะครองไฮไลต์ในค่ำคืนนั้น
ความพร้อมและแรงขับ: โอกาสสวมมงกุฎคนแรกของรุ่น
ทั้งสองต่างมีแรงจูงใจมหาศาลต่อหน้าผู้ชมในญี่ปุ่น การได้สวมแชมป์โลก ONE มวยไทย รุ่นอะตอมเวต เส้นแรก คือเครื่องหมายเชิงสัญลักษณ์ของยุคใหม่ในหมวดน้ำหนักเล็ก ความต่อเนื่องของฟอร์มนาดากะและบรรยากาศบ้านเกิดอาจเป็นแต้มต่อ ขณะเดียวกันหนุ่มสุรินทร์ก็มีแรงผลักจากบทบาท “ผู้ล้มยักษ์” ที่พร้อมจารึกตำนานหน้าใหม่เช่นกัน ทำให้ไฟต์นี้ถูกมองว่าเปิดกว้างและหักมุมได้ทุกวินาที
เช็กลิสต์ก่อนชม: เวลา สถานที่ และช่องทางรับชม
ศึก ONE 173: Superbon vs Noiri จะมีขึ้นวันอาทิตย์ที่ 16 พฤศจิกายน 2025 ตามเวลาญี่ปุ่น ณ อาเรียเกะ อารีนา โตเกียว โดย ONE ระบุว่าจะมีถ่ายทอดสดผ่านช่องทางทางการและแพลตฟอร์มสตรีมมิงขององค์กร แฟนมวยไทยที่ต้องการติดตามไฟต์ชิงอะตอมเวตสามารถตรวจตารางออกอากาศตามภูมิภาคของตนเพื่อไม่พลาดช็อตสำคัญของค่ำคืนนี้
ตารางสรุป “ช็อตน็อค ของ นาดากะ เอวะสปอร์ตยิม” และปัจจัยชี้ขาด
| ลำดับ | แพตเทิร์นช็อตน็อค | คำอธิบายเชิงเทคนิค | จุดที่หนุ่มสุรินทร์ต้องระวัง |
|---|---|---|---|
| 1 | หมัดหนึ่ง–สอง + ศอกสั้น | ใช้หมัดเปิดการ์ดแล้วพุ่งเข้าประชิด ปักศอกสั้นเข้าจุดบอดในจังหวะรับไม่ทัน ทำให้เสียอาการทันที | อย่าถอยตรงเส้น แก้ด้วยการก้าวหลบองศาและรีเซ็ตระยะทันที |
| 2 | ก้าวมุมครึ่งสเต็ป + เข่าตรงลำตัว | หลบแนวหมัดก่อนเสียบเข่าตรงเข้ากลางลำตัว ตัดลมหายใจและทำลายบาลานซ์ | ต้องปิดช่องท้องและดักด้วยคัทคิกสวนเพื่อตัดตอนการเข้าประชิด |
| 3 | ดักศอกกลับในระยะตีสั้น | หน่วงเท้าล่อให้เข้าระยะ แล้วตวัดศอกมุมปิดที่คาดยาก สร้างดาเมจเฉียบพลัน | ห้ามพุ่งแบบโนเทเล จับสัญญาณล่อและใช้เฟนต์หลอกก่อนคอมมิต |
ตารางมวยไทยครบทุกคู่ พร้อมลิงก์ถ่ายทอดสดวันนี้! รวมทุกศึก ทุกสังเวียน ดูสดได้ในที่เดียว
คีย์สตอรี่ของนาดากะ: ความมุ่งมั่นและระเบียบวินัย
เบื้องหลัง นาดากะ เอวะสปอร์ตยิม คือความสม่ำเสมอในการฝึกและความละเอียดกับรายละเอียดเล็กๆ ตั้งแต่ตำแหน่งเท้า สายตา ไปจนถึงการล่อจังหวะและเบรกจังหวะ การได้ปูพื้นฐานในเวทีไทย และต่อยอดด้วยระบบซ้อมที่ญี่ปุ่น ทำให้เขากลายเป็นนักมวยที่มีเครื่องมือครบ กล้าตัดสินใจ และไม่ยอมปล่อยให้โอกาสหลุดมือเมื่อได้กลิ่นเลือด
เสียงจากแคมป์ไทย: มุมมองต่อ “โอกาสพลิกล็อก” ของหนุ่มสุรินทร์
ในฝั่งหนุ่มสุรินทร์ ทีมงานชี้ว่า “ไม่มีอะไรเป็นไปไม่ได้” เมื่อต้องเผชิญหน้ากับขวัญใจเจ้าถิ่น พลังใจและการออกอาวุธแบบดุดันคือกุญแจสำคัญ เขารู้ดีว่าต้องตัดท่อนล่างของนาดากะให้ช้าลงเพื่อทำลายสปีด และต้องทำให้อีกฝ่ายไม่สบายตัวตั้งแต่ต้นยก หากสคริปต์นี้เดินตามแผน โอกาสล้มยักษ์กลางโตเกียวก็ไม่ไกลเกินเอื้อม
การ์ดใหญ่และซูเปอร์ไฟต์: บรรยากาศที่ยกระดับแรงกดดัน
ONE 173 ไม่ได้มีดีเฉพาะไฟต์อะตอมเวต แต่ยังอัดแน่นด้วยคู่แชมป์โลกและการรีแมตช์ระดับซูเปอร์สตาร์ ทำให้บรรยากาศทั้งฮอลล์ถูกยกระดับความฮึกเหิมและแรงกดดัน โดยเฉพาะเมื่อลุยในบ้านญี่ปุ่นซึ่งแฟนกีฬาเชียร์อย่างมีวินัยและเต็มเสียง ปัจจัยนี้ทำให้ “ความนิ่ง” กลายเป็นเครื่องมือสำคัญพอๆ กับหมัด ศอก และเข่า บนสังเวียนที่เรื่องราวใหญ่กำลังถูกเขียน
จุดชี้แพ้ชนะ: ระยะแรกและการควบคุมมุม
ยกแรกและยกสองน่าจะเป็นช่วงเวลาที่บอกอนาคตไฟต์ หากนาดากะคุมมุมและสร้างจังหวะสองได้ก่อน ความเสียหายสะสมจะกดดันหนุ่มสุรินทร์จนต้องเปลี่ยนเกม ขณะที่หากหนุ่มสุรินทร์พาไฟต์เข้าแลกระยะประชิดตั้งแต่ต้น พร้อมตัดจังหวะขาและท้องของนาดากะ เกมอาจพลิกและเกิดช่วงชิงโมเมนตัมที่ไม่คาดคิดในยกถัดไป
ประสบการณ์ระดับเวทีไทย: ตราประทับที่ทำให้นาดากะอันตรายยิ่งกว่าเดิม
การที่นาดากะเคยคว้าแชมป์ราชดำเนินและลุมพินี ทำให้เขาเข้าใจ “ภาษา” ของมวยไทยแท้จริง ทั้งการคล้องคอ การสับศอก และการจัดจังหวะคุมเกม ซึ่งเมื่อย้ายมาสวมถุงมือ 4 ออนซ์ใน ONE ความคมและแรงกระทบยิ่งทวีคูณ นี่คือเหตุผลว่าทำไมแฟนๆ ถึงย้ำให้ย้อนชม ช็อตน็อค ของ นาดากะ เพื่อเห็นรายละเอียดที่ซ่อนอยู่ในวินาทีตัดสินใจ
แรงหนุนจากเจ้าถิ่น: อะดรีนาลีนที่ผลักให้กล้าปิดเกม
การได้ชกในบ้านเกิดคือแรงเสริมที่สำคัญต่อความกล้าตัดสินใจในช่วงหัวเลี้ยวหัวต่อ ผู้ชมญี่ปุ่นจำนวนมากคุ้นชื่อ “นาดากะ” และยอมรับฝีมือของเขาในฐานะตัวแทนมวยไทยจากแดนซามูไร การสนับสนุนนี้ส่งผลให้เขากล้าเสี่ยงในจังหวะสามที่ต้องเลือกว่าจะ “ปิดเกม” หรือ “ยืดเกม” เพื่อเก็บคะแนน ปัจจัยจิตวิทยาจึงอาจผลักให้เกิดช็อตน็อคได้ง่ายขึ้นหากได้ไล่บีบตามแผน
คำเตือนจากอีกฝั่ง: อย่ามองข้ามความอึดของหนุ่มสุรินทร์
แม้หลายสำนักจะยกให้นาดากะเป็นต่อ แต่ความอึดและใจนักสู้ของหนุ่มสุรินทร์คือของจริง เขาเคยผ่านไฟต์หนักและไม่เคยกลัวการแลกแบบตัวต่อตัว จุดหมุนของไฟต์จึงอยู่ที่การบริหารพลังงานและวินัยเกมรับ หากหนุ่มสุรินทร์ไม่ปล่อยให้โดนเจาะท้องหรือเสียบาลานซ์ตั้งแต่ต้น เขาจะยืนแลกได้จนจบ และนั่นคือพื้นที่ของ “พลิกล็อก” ที่แฟนไทยเฝ้ารอ
สถิติและเกียรติยศ: ตอกย้ำภาพนักล่าจากแดนอาทิตย์อุทัย
ตลอดเส้นทาง นาดากะถูกบันทึกว่าเป็น “10 สมัยแชมป์โลกมวยไทย” และเจ้าของแชมป์เวทีใหญ่ในไทยหลายเส้น รวมทั้งพกสถิติไร้พ่ายยาวนานก่อนศึกชิงเข็มขัด ทำให้แรงคาดหวังพุ่งสูงเป็นพิเศษ หากเขาปิดเกมได้สวยในโตเกียว ภาพจำ นาดากะ จะกลายเป็นโปสเตอร์หน้าใหม่ของรุ่นอะตอมเวตในทันที
พรีวิววินาทีสำคัญ: สิ่งที่ควรจับตาตั้งแต่เสียงระฆังแรก
ทันทีที่ระฆังดัง ให้จับตาฟุตเวิร์กด้านซ้ายของนาดากะว่าเขาจะตัดมุมเพื่อเปิดไลน์หมัดหรือไม่ และดูว่าหนุ่มสุรินทร์จะตัดขาและบี้เข้ากอดคลุกในระยะคออย่างไร ยิ่งถ้าฝ่ายไทยพาเกมเข้าสู่ศอกแลกศอกได้ตั้งแต่กลางยกแรก เราอาจได้เห็นพล็อตที่แตกต่างไปจากที่หลายคนคาด และทำให้ความตึงเครียดพุ่งขึ้นแบบไม่ทันตั้งตัว
ทางแพ้–ทางชนะ: สูตรลับสองฝ่ายในคืนชิงบัลลังก์
ทางชนะของนาดากะคือการรักษาจังหวะและเล่นงานกลางลำตัวสลับใบหน้าเพื่อสะสมดาเมจ แล้วค่อยเร่งปิดจ็อบเมื่อได้ช่อง ส่วนหนุ่มสุรินทร์ต้องบีบให้เกิดคลินช์บ่อยครั้งไม่เปิดพื้นที่ให้ถูก “ฉีกการ์ด” และต้องสร้างงานกับขาและลำตัวเพื่อตัดสปีด หากแผนใครเดินก่อน เข็มขัดเส้นปฐมฤกษ์ก็พร้อมจะพาดบ่าฝ่ายนั้นโดยไม่มีข้อกังขา
ปิดท้ายก่อนชก: คืนที่ภาพจำจะบอกเล่าแทนถ้อยคำ
ไม่ว่าผลจะออกหน้าไหน ONE 173 คือค่ำคืนที่ภาพจำบนสังเวียนจะเล่าเรื่องแทนคำพูด หากเป็นฝ่ายนาดากะ ภาพที่ถูกเล่นซ้ำจะเป็น ช็อตน็อค ของ นาดากะ อันเฉียบคมบนผืนผ้าใบโตเกียว แต่ถ้าหนุ่มสุรินทร์ยืนหยัดและพลิกล็อกได้ ภาพจำก็จะเป็นใบหน้าที่เชื่อมั่นของนักล้มยักษ์ผู้ครองเข็มขัดเส้นแรกของรุ่นอะตอมเวตในหน้าประวัติศาสตร์ ONE เช่นกัน
FAQs
นาดากะ เอวะสปอร์ตยิม เด่นเรื่องอาวุธอะไร?
ความครบเครื่องของนาดากะทำให้เขาเล่นได้ทุกระยะ จุดเด่นคือหมัดหนึ่ง–สองเร็วจัด ศอกสั้นคม และเข่าตรงลำตัวที่ตัดลมหายใจคู่ชก รวมถึงฟุตเวิร์กที่ช่วยเปิดมุมโจมตี เมื่อรวมกับวินัยเกมรับระดับสูง จึงเกิดโอกาสปิดบัญชีแบบทันทีทันใดอย่างที่เราเห็นในหลายไฟต์ที่ผ่านมา
ทำไมคู่กับหนุ่มสุรินทร์ถึงน่าดูเป็นพิเศษ?
เพราะนี่คือศึกชิงแชมป์โลกเส้นแรกของรุ่นอะตอมเวตที่กรุงโตเกียว และเป็นการปะทะกันระหว่างความคมกริบของเจ้าถิ่นกับพลังใจและแรงปะทะของนักชกไทย โอกาสพลิกหน้าประวัติศาสตร์มีได้ทั้งสองฝั่ง และทุกวินาทีมีค่าพอจะเปลี่ยนบทสรุปของไฟต์ให้ไม่เหมือนที่คาดไว้แต่แรก
ONE 173 จัดเมื่อไหร่และรับชมได้อย่างไร?
รายการ ONE 173: Superbon vs Noiri จัดวันอาทิตย์ที่ 16 พฤศจิกายน 2025 ตามเวลาท้องถิ่นญี่ปุ่น ที่อาเรียเกะ อารีนา โตเกียว โดยสามารถติดตามการถ่ายทอดสดผ่านแพลตฟอร์มทางการของ ONE และบริการสตรีมมิงที่ประกาศในภูมิภาคของคุณ ตรวจสอบตารางถ่ายทอดล่าสุดก่อนวันแข่งขันเพื่อไม่พลาดช่วงเวลาสำคัญ
โปรไฟล์ย่อของนักชกทั้งสอง?
นาดากะ โยชินาริ อายุราว 24 ปี ทีม Eiwa Sports Gym เจ้าของเกียรติยศระดับเวทีไทยและโลกหลายเส้น ส่วนหนุ่มสุรินทร์ วัยประมาณ 30 ปี เติบโตจากสังเวียนไทยและ ONE Friday Fights จุดเด่นคือสไตล์บู๊และใจสู้ไม่ถอย ทั้งคู่ต่างไล่ล่าบัลลังก์อะตอมเวตเส้นแรกของโลกในค่ำคืนเดียวกัน

