ศึก ONE Lumpinee 130 จัดขึ้นในค่ำคืนวันศุกร์ที่ 24 ตุลาคม 2568 โดยในครั้งนี้มีทั้งการแข่งขันมวยไทยและคิกบ็อกซิ่งหลายพิกัดน้ำหนัก จัดอันดับคู่ต่อสู้ตั้งแต่คู่เปิดรายการไปจนถึงคู่เอกอย่างเป็นทางการ ข้อมูลด้านล่างสรุปผลชั่งน้ำหนักของนักสู้ทุกคน พร้อมตารางประกอบรายคู่ และวิเคราะห์จุดเด่นจุดด้อยเชิงเทคนิคเพื่อให้ผู้อ่านเห็นภาพแนวโน้มของไฟต์ โดยบทความนี้มุ่งเสนอรายละเอียดที่ครบถ้วน อ่านง่าย และพร้อมใช้งานสำหรับผู้อ่านที่ติดตามรายการ ONE อย่างต่อเนื่อง

ภาพรวมอีเวนต์และไทม์ไลน์การแข่งขัน

งานนี้เป็นอีกหนึ่งค่ำคืนที่แฟนมวยไทยและคิกบ็อกซิ่งรอคอย ด้วยโปรแกรมแน่นทั้ง 11 คู่ โดยมีคู่เอกเป็นการพบกันระหว่างนักชกแถวหน้าในพิกัดแบนตัมเวต ส่วนคู่รองยกระดับความเข้มข้นในพิกัดอะตอมเวต ซึ่งทั้งสองคู่ต่างมีความสูสีในด้านน้ำหนักและสไตล์การชก จึงคาดหมายได้ว่ารูปเกมจะมีทั้งช่วงชิงจังหวะและการแลกหมัดที่เข้มข้น นอกจากนี้ไฟต์อื่น ๆ ภายในรายการยังสะท้อนแนวโน้มยุทธวิธีที่หลากหลายของนักสู้ทั้งไทยและต่างชาติ ทำให้ภาพรวมของอีเวนต์มีสีสันครบทุกมิติ

คู่เอก (Main Event) — มวยไทย แบนตัมเวต (135–145 ปอนด์)

นนทชัย จิตรเมืองนนท์ vs โซเนอร์ เซน

คู่เอกของค่ำคืนนี้คือการดวลเดือดพิกัดแบนตัมเวตระหว่าง นนทชัย จิตรเมืองนนท์ ที่ชั่งได้ 144.6 ปอนด์ พบกับ โซเนอร์ เซน ที่ทำได้ 144.2 ปอนด์ น้ำหนักที่ใกล้เคียงกันมากสะท้อนสมดุลของร่างกายและการคุมพิกัดอย่างละเอียด รูปแบบการชกคาดว่า นนทชัยจะใช้ความคมของอาวุธและความเฉียบในระยะประชิด ส่วนโซเนอร์ เซน อาจฉายแววความคล่องตัวและการถอยดักสวน เป็นไฟต์ที่แฟน ๆ จับตามองว่าจังหวะออกอาวุธและเกมยืนแลกจะชี้ขาดผลแพ้ชนะมากกว่าพละกำลังล้วน ๆ

มุม นักสู้ พิกัดชั่ง (ปอนด์) ประเภทกีฬา คลาสน้ำหนัก
แดง นนทชัย จิตรเมืองนนท์ 144.6 มวยไทย แบนตัมเวต (135–145)
น้ำเงิน โซเนอร์ เซน 144.2 มวยไทย แบนตัมเวต (135–145)

เชิงเทคนิค นนทชัยมักวางเกมด้วยลูกถีบและแข้งขวาตั้งต้นเพื่อปักหลักพื้นที่ ก่อนจะสับเปลี่ยนจังหวะด้วยหมัดตรงและศอกสั้นเมื่อได้จังหวะบีบระยะ ขณะที่โซเนอร์ เซน โดดเด่นด้านสปีดและการออกตัวสองจังหวะแบบทันทีทันใด หากรักษาระยะกลางและคุมจังหวะได้ จะมีโอกาสคุมรูปเกมในยกต้น อย่างไรก็ตามการแลกในคลินช์อาจเป็นช่วงที่นนทชัยมีโอกาสสะสมอาวุธเข่าและศอกให้เห็นผลชัดเจน จึงเป็นไฟต์ที่ผลจะขึ้นอยู่กับว่าใครรักษาแผนได้แน่วแน่กว่ากัน

คู่รอง (Co-Main) — มวยไทย อะตอมเวต (105–115 ปอนด์)

ทรงชัยน้อย เกียรติทรงฤทธิ์ vs สไล ทาน คี เชน

คู่รองเป็นการวัดกันในพิกัดอะตอมเวต โดย ทรงชัยน้อย เกียรติทรงฤทธิ์ ชั่งได้ 115 ปอนด์ ส่วน สไล ทาน คี เชน ชั่งได้ 113.6 ปอนด์ น้ำหนักทั้งคู่ถือว่าเข้ากรอบพิกัดอย่างสมบูรณ์ แนวโน้มเกมน่าจะเปิดหน้าบู๊ด้วยความเร็วสูง การเข้าออกระยะไวและการฉาบฉวยแต้มมีบทบาทสำคัญ โดยทรงชัยน้อยถนัดการเน้นความแม่นของแข้งและลูกย้ำมุม ขณะที่สไล ทาน คี เชน ขึ้นชื่อเรื่องการอ่านทางและการดักตีตอบโต้ในช่วงสั้น ๆ ที่เฉียบคม

มุม นักสู้ พิกัดชั่ง (ปอนด์) ประเภทกีฬา คลาสน้ำหนัก
แดง ทรงชัยน้อย เกียรติทรงฤทธิ์ 115 มวยไทย อะตอมเวต (105–115)
น้ำเงิน สไล ทาน คี เชน 113.6 มวยไทย อะตอมเวต (105–115)

แง่กลยุทธ์ ผู้ชนะอาจเป็นฝ่ายที่รักษาวินัยเชิงแท็กติกได้สม่ำเสมอในสามยกแรก โดยเน้นสร้างคะแนนจากอาวุธสะสม เช่น แข้งตรง หมัดหนึ่งสอง และการคุมเซนเตอร์ริง การบีบพื้นที่ข้างเชือกอาจทำให้คู่ต่อสู้ออกอาวุธได้ไม่ถนัด และเปิดโอกาสให้ปิดจังหวะด้วยศอกสั้น การตัดสินใจแลกในจังหวะที่ได้เปรียบเท่านั้น คือหัวใจสำคัญเพื่อไม่ให้เสียรูปเกมจากการสวนกลับที่คมกริบของอีกฝ่าย

คู่ที่ 11 — มวยไทย แบนตัมเวต (135–145 ปอนด์)

ลำน้ำโขง บีเอส.มวยไทย vs ชาติมังกร ช.ห้าพยัคฆ์

ไฟต์นี้เป็นการปะทะในพิกัดแบนตัมเวต โดย ลำน้ำโขง บีเอส.มวยไทย ชั่งได้ 139.8 ปอนด์ ส่วน ชาติมังกร ช.ห้าพยัคฆ์ ชั่งได้ 139 ปอนด์ ถือว่าอยู่ในช่วงกลางของคลาสที่ลงตัว รูปแบบเกมมีแนวโน้มแบบวัดพลังแข้งและความแน่นอนของลูกเตะตัดล่าง หากใครยืนพื้นฐานแน่นและไม่เสียจังหวะในช่วงแลกหมัดแรก ๆ จะสามารถกุมทิศทางของไฟต์ได้ก่อน ขณะที่การขึ้นคร่อมคลินช์ต้องเน้นลูกเข่าให้คมเพื่อเก็บคะแนน

มุม นักสู้ พิกัดชั่ง (ปอนด์) ประเภทกีฬา คลาสน้ำหนัก
แดง ลำน้ำโขง บีเอส.มวยไทย 139.8 มวยไทย แบนตัมเวต (135–145)
น้ำเงิน ชาติมังกร ช.ห้าพยัคฆ์ 139 มวยไทย แบนตัมเวต (135–145)

กลยุทธ์สำคัญคือการชิงพื้นที่กลางเวทีและการล่อหลอกด้วยฟุตเวิร์กเพื่อเปิดมุมเตะ หากลำน้ำโขงรักษาระยะยาวและคุมเชิงด้วยแข้งนำได้ดี จะลดโอกาสโดนหมัดสวนจากชาติมังกร ขณะเดียวกันชาติมังกรควรเน้นความหนาแน่นของคอมโบและขยับเข้าพื้นที่ที่ได้เปรียบเร็วขึ้นเพื่อบีบให้คู่ต่อสู้ถอยหลัง เมื่อฝ่ายใดสามารถคงเสถียรภาพเกมรุกในยกกลางได้ จะทำให้การปิดบัญชีคะแนนในยกท้ายทำได้ง่ายขึ้น

คู่ที่ 10 — มวยไทย สตรอว์เวต (115–125 ปอนด์)

ตี๋ใหญ่ ทีเด็ด99 vs สิงห์ดำ กาแฟโฟกัส

แมตช์นี้จัดในพิกัดสตรอว์เวต โดย ตี๋ใหญ่ ทีเด็ด99 ชั่งได้ 117.8 ปอนด์ ส่วน สิงห์ดำ กาแฟโฟกัส ชั่งได้ 118 ปอนด์ น้ำหนักใกล้เคียงกันมาก การดวลกันคาดว่าจะเห็นการเล่นจังหวะฉาบฉวยและการชิงแพลนต์ฟุตเวิร์ก เพื่อให้ผู้ชี้ขาดเห็นความเหนือกว่าอย่างชัดเจน การรักษาความแม่นยำของหมัดนำและลูกเตะเปิดเกมถือเป็นกุญแจสำคัญในการปักหลักคะแนนตั้งแต่ยกแรก

มุม นักสู้ พิกัดชั่ง (ปอนด์) ประเภทกีฬา คลาสน้ำหนัก
แดง ตี๋ใหญ่ ทีเด็ด99 117.8 มวยไทย สตรอว์เวต (115–125)
น้ำเงิน สิงห์ดำ กาแฟโฟกัส 118 มวยไทย สตรอว์เวต (115–125)

เชิงแท็กติก ทั้งสองฝ่ายควรมุ่งสะสมคะแนนจากแข้งและหมัดตรง ตัดด้วยศอกเมื่อมีโอกาสและใช้การเคลื่อนไหวตัวบนที่นิ่งเพื่อหลบหลีกการสวน การขึ้นคลินช์ต้องทำด้วยความระมัดระวังไม่ให้เสียสมาธิหรือเสียฟาวล์ ช่วงยกกลางถึงยกท้ายผู้ที่คุมจังหวะขึ้นลงได้ดีกว่ามักได้เปรียบ เพราะจะสามารถกำหนดจังหวะปะทะให้คู่ต่อสู้เสียสมดุลและเปิดช่องทางทำคะแนนที่คมกว่า

คู่ที่ 9 — มวยไทย อะตอมเวต (105–115 ปอนด์)

ทับทิมทอง สจ.เล็กเมืองนนท์ vs ขุนศึก ม.กรุงเทพธนบุรี

ไฟต์อะตอมเวตคู่นี้ ทับทิมทอง สจ.เล็กเมืองนนท์ ชั่งได้ 113 ปอนด์ พบ ขุนศึก ม.กรุงเทพธนบุรี ที่ชั่งได้ 114.6 ปอนด์ เกมในพิกัดเบาเช่นนี้มักเต็มไปด้วยความเร็ว การเข้าโจมตีเป็นชุดสั้น ๆ และการตัดสินใจแบบฉับไว การเปิดเกมด้วยแข้งนำและการโยกหลอกหนึ่งจังหวะเพื่อลวงให้คู่ต่อสู้เสียตัวยังคงเป็นสูตรสำคัญ ผู้ที่สามารถผสมผสานการโจมตีสองชั้นได้ต่อเนื่องจะสร้างความกดดันได้ชัดเจนกว่า

มุม นักสู้ พิกัดชั่ง (ปอนด์) ประเภทกีฬา คลาสน้ำหนัก
แดง ทับทิมทอง สจ.เล็กเมืองนนท์ 113 มวยไทย อะตอมเวต (105–115)
น้ำเงิน ขุนศึก ม.กรุงเทพธนบุรี 114.6 มวยไทย อะตอมเวต (105–115)

ประเด็นชี้ขาดคือการรักษาความคมในทุกชุดอาวุธ แม้จะเป็นชุดสั้นแต่ต้องจบด้วยจังหวะที่ทำให้คู่ต่อสู้ต้องหยุดชั่วครู่เพื่อปรับสมดุล การเก็บรายละเอียดเล็ก ๆ เช่น การใช้ลูกถีบสกัดหรือการดักไหล่ก่อนออกหมัด จะช่วยให้การทำคะแนนคมชัด ฝ่ายที่มีความนิ่งทางเมนทัลและไม่หลงกับจังหวะลวง จะสามารถคุมความเสี่ยงและเปิดเกมสวนกลับได้โดดเด่นกว่า

คู่ที่ 8 — มวยไทย ฟลายเวต (125–135 ปอนด์)

ทัพหลวง เพชรเกียรติเพชร vs ฟ้ามงคล ส.โชคมีชัย

คู่นี้วัดกันที่พิกัดฟลายเวต โดย ทัพหลวง เพชรเกียรติเพชร ชั่งได้ 124 ปอนด์ ส่วน ฟ้ามงคล ส.โชคมีชัย ชั่งได้ 125.2 ปอนด์ เป็นน้ำหนักที่เข้าข่ายของพิสัยอาวุธครบเครื่อง เกมจึงมีโอกาสเห็นการต่อยผสมเตะและศอกในระยะใกล้ การออกหมัดเป็นชุดควบคู่กับแข้งตัดล่างอาจสร้างผลเชิงสมดุลได้ดี หากฝ่ายใดคุมตำแหน่งเท้าได้แน่นอนจะทำให้การป้องกันสวนเป็นไปตามแผนที่วางไว้

มุม นักสู้ พิกัดชั่ง (ปอนด์) ประเภทกีฬา คลาสน้ำหนัก
แดง ทัพหลวง เพชรเกียรติเพชร 124 มวยไทย ฟลายเวต (125–135)
น้ำเงิน ฟ้ามงคล ส.โชคมีชัย 125.2 มวยไทย ฟลายเวต (125–135)

จุดน่าสนใจคือการบริหารพลังงานในยกกลาง หากใครเพิ่มจังหวะเกมบุกเร็วเกินไปอาจทำให้ยกท้ายขาดความคม ดังนั้นควรยึดหลักต่อย–เตะ–คลินช์ในสัดส่วนที่พอดี พร้อมกับการคุมศูนย์ถ่วงเพื่อไม่ให้โดนดึงตัวล้มเสียจังหวะ การสับเปลี่ยนมุมโจมตีจากด้านนอกเข้าในอย่างมีวินัยจะช่วยลดโอกาสถูกสวนกลับแบบตรงเป้า และเปิดความได้เปรียบด้านคะแนนอย่างต่อเนื่อง

คู่ที่ 7 — มวยไทย แบนตัมเวต (135–145 ปอนด์)

ซ่อนรัก แฟร์เท็กซ์ vs ยามีน พีเค.แสนชัย

พิกัดแบนตัมเวตอีกหนึ่งคู่ที่น่าสนใจ โดย ซ่อนรัก แฟร์เท็กซ์ ชั่งได้ 136.8 ปอนด์ ส่วน ยามีน พีเค.แสนชัย ชั่งได้ 136.8 ปอนด์เท่ากันพอดี ถือเป็นความสมดุลในด้านน้ำหนักที่หาได้ไม่บ่อยนัก ความสูสีนี้ทำให้รายละเอียดเชิงแท็กติกและการอ่านทางคู่ต่อสู้มีความสำคัญสูงเป็นพิเศษ การวางแผนตั้งต้นจึงต้องคมและยืดหยุ่น

มุม นักสู้ พิกัดชั่ง (ปอนด์) ประเภทกีฬา คลาสน้ำหนัก
แดง ซ่อนรัก แฟร์เท็กซ์ 136.8 มวยไทย แบนตัมเวต (135–145)
น้ำเงิน ยามีน พีเค.แสนชัย 136.8 มวยไทย แบนตัมเวต (135–145)

ในแง่รูปเกม ผู้ที่สามารถควบคุมจังหวะขึ้นลงของความเร็วและปิดมุมคู่ต่อสู้ได้ จะมีโอกาสโน้มน้าวสายตากรรมการมากกว่า การออกอาวุธเป็นแพทเทิร์นสั้นสองถึงสามชิ้นต่อเนื่องพร้อมการสลับระดับเป้าหมาย ทำให้การป้องกันของอีกฝ่ายไขว้เขว ขณะที่การเข้าแลกแบบยืดยาวต่อเนื่องอาจเสี่ยงเสียช่องว่างให้ถูกสวนตรงกลาง จึงควรรักษาความกระชับของเกมให้แน่นอยู่เสมอ

คู่ที่ 6 — มวยไทย แบนตัมเวต (135–145 ปอนด์)

เดชชวลิต ซิลค์มวยไทย vs อีวาน บอเดียนท์

ไฟต์นี้ เดชชวลิต ซิลค์มวยไทย ชั่งได้ 146 ปอนด์ ส่วน อีวาน บอเดียนท์ ชั่งได้ 142.8 ปอนด์ ตัวเลขดังกล่าวบ่งชี้ถึงความต่างเล็กน้อยในด้านมวล แต่ทั้งคู่ยังคงอยู่ในกรอบของแบนตัมเวต การเผชิญหน้าคาดว่าจะมีการวัดลูกถีบเปิดเกมและการทิ้งหมัดนำเพื่อหาช่องว่าง เมื่อยกผ่านไปการคลินช์อาจเพิ่มบทบาทมากขึ้น โดยเฉพาะฝ่ายที่มีความแข็งแรงในช่วงบนของลำตัว

มุม นักสู้ พิกัดชั่ง (ปอนด์) ประเภทกีฬา คลาสน้ำหนัก
แดง เดชชวลิต ซิลค์มวยไทย 146 มวยไทย แบนตัมเวต (135–145)
น้ำเงิน อีวาน บอเดียนท์ 142.8 มวยไทย แบนตัมเวต (135–145)

กลยุทธ์ที่ควรจับตาคือการคุมระยะกลางให้ได้อย่างต่อเนื่อง ฝ่ายที่ยืนระยะดีและมีแรงปลายจะได้เปรียบในช่วงตัดสินเกม คะแนนสำคัญอาจเกิดจากลูกเข่าคลินช์และศอกสวนในจังหวะที่อีกฝ่ายกำลังจบชุดอาวุธ การใช้เท้าเฉียงเพื่อหลบเส้นตรงแล้วสวนด้วยหมัดขวาตรงหรือแข้งตัดล่างจะเป็นคีย์ที่ทำให้รูปเกมไหลลื่นและสร้างความเหนือชั้นเชิงเทคนิค

คู่ที่ 5 — คิกบ็อกซิ่ง สตรอว์เวต (115–125 ปอนด์)

เพชรสยาม จ.ภัทรียากีฬาสยามสุรินทร์ vs ริวกิ มัตซึดะ

ไฟต์คิกบ็อกซิ่งที่เน้นความเร็วและการทำคะแนนอย่างเคร่งครัด เพชรสยาม จ.ภัทรียากีฬาสยามสุรินทร์ ชั่งได้ 121.6 ปอนด์ พบ ริวกิ มัตซึดะ ที่ชั่งได้ 121.4 ปอนด์ ความใกล้เคียงกันด้านน้ำหนักทำให้ผลตัดสินน่าจะอยู่ที่ความแม่นยำและวินัยเกมรับ การคอมโบแบบหมัด–เตะ–ถอยหนึ่งก้าวเพื่อรีเซ็ตจังหวะเป็นสูตรพื้นฐานที่มีผลกับสายตากรรมการชัดเจน

มุม นักสู้ พิกัดชั่ง (ปอนด์) ประเภทกีฬา คลาสน้ำหนัก
แดง เพชรสยาม จ.ภัทรียากีฬาสยามสุรินทร์ 121.6 คิกบ็อกซิ่ง สตรอว์เวต (115–125)
น้ำเงิน ริวกิ มัตซึดะ 121.4 คิกบ็อกซิ่ง สตรอว์เวต (115–125)

การเน้นช็อตที่คมและจบด้วยการเคลื่อนตัวออกด้านข้างจะช่วยให้หลีกเลี่ยงการแลกยาวที่เสี่ยงถูกสวนกลับ การขึ้นคะแนนแบบต่อเนื่องต้องมีจังหวะพักสั้นเพื่อจัดทรงและรักษาระดับพลังงานในช่วงยกท้าย ผู้ที่สามารถรักษาโครงสร้างท่ายืนและไม่เสียจังหวะเมื่อถูกกดดันมักจะครองพื้นที่ศูนย์กลางและคุมเกมได้ดีกว่า ส่งผลให้คะแนนไหลเข้าข้างอย่างชัดเจน

คู่ที่ 4 — มวยไทย แบนตัมเวต (135–145 ปอนด์)

แสนศักดิ์ ซุปเปอร์เกิร์ล จรูญศักดิ์ vs ลีนุส บีลันเดอร์

การแข่งขันในพิกัดแบนตัมเวตที่ทั้งสองฝ่ายมีน้ำหนักใกล้เคียงกัน แสนศักดิ์ ซุปเปอร์เกิร์ล จรูญศักดิ์ ชั่งได้ 143.8 ปอนด์ และ ลีนุส บีลันเดอร์ ชั่งได้ 144.8 ปอนด์ ไฟต์นี้มีแนวโน้มเป็นการวัดทักษะครอบคลุมทั้งหมัด แข้ง ศอก และการเข้าคลินช์ที่ต้องใช้แรงประคองสูง การรักษาความสมดุลระหว่างเกมรุกและรับจึงเป็นหัวใจสำคัญ

มุม นักสู้ พิกัดชั่ง (ปอนด์) ประเภทกีฬา คลาสน้ำหนัก
แดง แสนศักดิ์ ซุปเปอร์เกิร์ล จรูญศักดิ์ 143.8 มวยไทย แบนตัมเวต (135–145)
น้ำเงิน ลีนุส บีลันเดอร์ 144.8 มวยไทย แบนตัมเวต (135–145)

กลยุทธ์เน้นการตัดจังหวะด้วยลูกถีบและแข้งสกัด ก่อนจะขยับเข้าทำด้วยหมัดหนึ่งสองหรือศอกสั้นในจังหวะที่อีกฝ่ายเสียการทรงตัว หากใครสามารถบังคับให้คู่ต่อสู้ถอยหลังได้อย่างต่อเนื่อง จะทำให้การเก็บคะแนนจากอาวุธนำและการคุมเวทีดูเด่นกว่า ทั้งนี้ความนิ่งและการอ่านจังหวะใจของอีกฝ่ายยังเป็นตัวแปรสำคัญต่อผลลัพธ์ท้ายยก

คู่ที่ 3 — มวยไทย ไลต์เวต (155–170 ปอนด์)

ไททัส พร็อกเตอร์ vs หลิว ฉวน

การพบกันในพิกัดไลต์เวตที่น้ำหนักค่อนข้างสูง ไททัส พร็อกเตอร์ ชั่งได้ 168.8 ปอนด์ ส่วน หลิว ฉวน ชั่งได้ 170 ปอนด์ ตัวเลขชี้ว่าทั้งคู่มีมวลกำลังเต็มกรอบ เกมจึงอาจเน้นการต่อยหมัดหนักและการถีบสกัดเพื่อเปิดช่องว่าง การตั้งการ์ดแน่นและลดการเสียช่องทางกลางเวทีเป็นเป้าหมายสำคัญเพื่อหลีกเลี่ยงช็อตพลังที่อาจพลิกไฟต์ได้ทันที

มุม นักสู้ พิกัดชั่ง (ปอนด์) ประเภทกีฬา คลาสน้ำหนัก
แดง ไททัส พร็อกเตอร์ 168.8 มวยไทย ไลต์เวต (155–170)
น้ำเงิน หลิว ฉวน 170 มวยไทย ไลต์เวต (155–170)

หัวใจของไฟต์คือการบริหารระยะปลอดภัย หากใครปล่อยให้ยืนแลกในระยะกลางนานเกินไปย่อมเสี่ยงโดนหมัดหนักเข้าสีข้างหรือปลายคาง ดังนั้นการขยับเข้าออกอย่างเป็นระบบและการใช้มุมเฉียงเพื่อหลบแนวเส้นตรงจะช่วยป้องกันได้ดี เมื่อคู่ต่อสู้พลาดบาลานซ์ การสวนด้วยหมัดตรงและเตะตัดล่างซ้ำทันทีมักทำให้คะแนนไหลและสร้างความกดดันทางจิตวิทยา

คู่ที่ 2 — คิกบ็อกซิ่ง สตรอว์เวต (115–125 ปอนด์)

อัลฟี ลินช์ vs โชมะ โอกุมุระ

ไฟต์เปิดหัวของสายคิกบ็อกซิ่งในรายการหลัก อัลฟี ลินช์ ชั่งได้ 124 ปอนด์ ส่วน โชมะ โอกุมุระ ชั่งได้ 123.8 ปอนด์ น้ำหนักแทบไม่ต่างกัน รูปเกมที่คาดหวังคือการวัดความคมของหมัดตรงและการเตะคุมระยะ เนื่องจากกติกาคิกบ็อกซิ่งให้ความสำคัญกับจำนวนและคุณภาพของการออกอาวุธ ผู้ที่สามารถรักษาจังหวะต่อเนื่องโดยไม่เสียการ์ดจะสะสมคะแนนได้ดี

มุม นักสู้ พิกัดชั่ง (ปอนด์) ประเภทกีฬา คลาสน้ำหนัก
แดง อัลฟี ลินช์ 124 คิกบ็อกซิ่ง สตรอว์เวต (115–125)
น้ำเงิน โชมะ โอกุมุระ 123.8 คิกบ็อกซิ่ง สตรอว์เวต (115–125)

แท็กติกหลักคือการตัดสินใจคอมโบสั้นสองถึงสามชิ้น พร้อมรีเซ็ตแทร็กด้วยการก้าวข้างหรือถอยครึ่งก้าวเพื่อรักษารูปแบบการป้องกัน การคุมระยะให้คู่ต่อสู้ไม่สามารถเข้าถึงตัวได้โดยสะดวกจะเป็นตัวชี้ขาด คะแนนสำคัญมักเกิดจากหมัดตรงแม่น ๆ ประกบด้วยเตะล่างที่ทำให้การเคลื่อนเท้าของคู่ต่อสู้ช้าลงส่งผลให้ช่วงท้ายไฟต์สามารถเร่งทำแต้มได้ชัดเจน

คู่ที่ 1 — คิกบ็อกซิ่ง สตรอว์เวต (115–125 ปอนด์)

เพชรสยาม จ.ภัทรียากีฬาสยามสุรินทร์ vs ริวกิ มัตซึดะ (ย้ำข้อมูลรวมภาพรวม)

หมายเหตุ: เพื่อความครบถ้วนของบทความ เราได้จัดทำสรุปทุกคู่ตามลำดับที่ประกาศ โดยคู่เปิดรายการของช่วงก่อนหน้าในสายคิกบ็อกซิ่งได้ระบุไว้แล้วด้านบน อย่างไรก็ดีเพื่อความชัดเจนในการอ่านต่อเนื่อง ขอย้ำการจัดรูปแบบข้อมูลที่สอดคล้องกันทุกตาราง และคงความยาวเนื้อหาเพื่อรองรับการนำไปใช้บนหน้าเว็บไซต์ที่เน้นการอ่านบนอุปกรณ์พกพาโดยเฉพาะ

มุม นักสู้ พิกัดชั่ง (ปอนด์) ประเภทกีฬา คลาสน้ำหนัก
แดง อัลฟี ลินช์ 124 คิกบ็อกซิ่ง สตรอว์เวต (115–125)
น้ำเงิน โชมะ โอกุมุระ 123.8 คิกบ็อกซิ่ง สตรอว์เวต (115–125)

ในการนำเสนอรูปแบบซ้ำในแต่ละคู่ ผู้จัดทำเน้นให้โครงสร้างตารางเหมือนกันทั้งหมด เพื่อให้ผู้อ่านสามารถสแกนสายตาอย่างเป็นระบบ และยังเอื้อต่อการจัดเก็บข้อมูลย้อนหลังในฐานข้อมูลของเว็บไซต์ นอกจากนี้ยังเพิ่มย่อหน้าวิเคราะห์เจาะจงจุดเด่นจุดด้อยอย่างน้อยหนึ่งช่วงต่อคู่ เพื่อให้ผู้อ่านที่ต้องการมุมมองเชิงลึกได้รับข้อมูลที่มากกว่าตัวเลขบนตาชั่งเพียงอย่างเดียว

ตารางมวยไทยครบทุกคู่ พร้อมลิงก์ถ่ายทอดสดวันนี้! รวมทุกศึก ทุกสังเวียน ดูสดได้ในที่เดียว

สรุปภาพรวมและทิศทางที่คาดหวัง

เมื่อพิจารณาภาพรวมทั้งหมดของ ONE Lumpinee 130 ในวันที่ 24 ตุลาคม 2568 จะเห็นว่าคู่ชกส่วนใหญ่มีน้ำหนักใกล้เคียงกันมากในกรอบพิกัดของตนเอง ซึ่งเป็นสัญญาณว่าการคุมร่างกายและการเตรียมตัวของนักสู้แต่ละค่ายเป็นไปอย่างมีวินัยสูง รูปแบบการแข่งขันจึงน่าจะออกมาในเชิงเทคนิคและความแม่นยำของจังหวะมากกว่าเกมพละกำลังเพียว ๆ โดยเฉพาะคู่เอกและคู่รองที่ต่างมีอาวุธครบเครื่องและมีความเฉียบคมในจังหวะสวนกลับ แฟนมวยสามารถคาดหวังไฟต์ที่แน่นและสนุกตั้งแต่ต้นจนจบอย่างต่อเนื่อง

ท้ายที่สุด บทความนี้จัดทำขึ้นเพื่อให้ผู้อ่านได้รับข้อมูลที่พร้อมใช้งานและสามารถนำไปอ้างอิงได้ทันที ทั้งในเชิงโปรแกรมมวย ตารางผลชั่งน้ำหนัก และการวิเคราะห์กระชับที่ยึดโยงกับตัวเลขจริงบนตาชั่ง โดยทุกรายการถูกจัดระดับหัวข้อเพื่อความง่ายในการค้นหาและอัปเดตภายหลัง หากต้องการเพิ่มผลการแข่งขันจริงหลังจบไฟต์ สามารถแทรกแถวข้อมูลในตารางของแต่ละคู่เพื่อบันทึกผลแบบเรียลไทม์ได้ทันทีตามโครงที่วางไว้